หน้าฝนนี้ สคร. 12 สงขลา เตือนระวัง “ปอดบวม” โรคที่มากับน้ำท่วม

ข่าวทั่วไป Friday September 26, 2014 10:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและมักมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นช่วงๆ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำขังในพื้นที่ต่างๆ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศดังกล่าว เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคภัยสุขภาพหลายชนิด ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว กรมควบคุมโรคจึงออกประกาศแจ้งเตือนเรื่องโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วม หนึ่งในนั้นคือโรคปอดบวม โรคปอดบวม เกิดจากเชื้อได้หลายชนิด เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในปอด ทำให้มีการอักเสบของปอด ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหากมีการสำลักน้ำ หรือสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปในปอด ก็มีโอกาสเป็นโรคปอดบวมได้ การติดต่อของโรคปอดบวมสามารถติดต่อได้โดยการหายใจเอาเชื้อโรคในอากาศเข้าไป หรือจากการคลุกคลีกับผู้ป่วยเมื่อ ไอ จาม หรือหายใจรดกันหรือในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ อ่อนแอ พิการ มักพบเกิดจากการสำลักเอาเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ปกติในจมูกและลำคอเข้าไปในปอด ส่วนอาการของโรคปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมาก หายใจหอบและเร็ว ถ้าเป็นมากจะหายใจหอบเหนื่อยจนเห็นชายโครงบุ๋ม เล็บมือ เล็บเท้า ริมฝีปากซีด หรือเขียวคล้ำ กระสับกระส่าย หรือซึม เมื่อมีอาการสงสัยว่าเป็นโรคปอดบวม ต้องรีบพบแพทย์ทันที โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดได้หากไมได้รับการรักษาที่เหมาะสม เช่น น้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด หนองในช่องเยื่อหุ้มปอด ปอดแตกและมีลมรั่วในช่องปอด หรือเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบ ในผู้มีโรคหัวใจอยู่ก่อนอาจหัวใจวายได้ ผู้ที่มีอาการของโรคปอดบวม ต้องรีบเข้าพบแพทย์และรับการรักษาในโรงพยาบาล จากนั้นต้องดูแลตนเองโดยการใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลา ไอ จาม หรือสวมหน้ากากป้องกันโรค เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น หากมีไข้ ให้รับประทานยาลดไข้ และใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดไข้ รับประทานอาหารที่อ่อนย่อยง่าย รับประทานผักผลไม้ ดื่มน้ำอุ่น ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่เปียกชื้น และรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ การป้องกันโรคปอดบวมจะใช้วิธีหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ เช่นเดียวกับโรคหวัด คือให้หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นโรคปอดบวม โดยเฉพาะเด็กทารก หากเป็นโรคปอดบวมจะมีอันตรายมาก หลักเลี่ยงมลภาวะที่เป็นพิษ เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันท่อไอเสียจากรถยนต์ และหมอกควันในอากาศ และหลีกเลี่ยงให้เด็กอ่อนสัมผัสกับความหนาวเย็น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากโรคปอดบวมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 สำหรับสถานการณ์โรคปอดบวมในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 24 กันยายน 2557 พบ พบผู้ป่วยสูงสุดที่จังหวัดสงขลา จำนวน 3,578 คน รองลงมาคือจังหวัดนราธิวาส จำนวน 1,576 คน จังหวัดตรังจำนวน 999 คน จังหวัดพัทลุงจำนวน 946 คน เสียชีวิต 1คน จังหวัดปัตตานี 801 คน จังหวัดยะลา 711 คน และจังหวัดสตูล 291 คน ตามลำดับ ซึ่งกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุดคืออายุ 0-4 ปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ