กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
มท.1 และมท.2 ตรวจเยี่ยมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มอบนโยบายการบริหารราชการ ให้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักการทรงงานเป็นแนวทางในการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ พร้อมยึดหลักการทำงานภายใต้แนวคิด “ทำงานเชิงรุก รวดเร็ว ทุ่มเท จริงจัง มุ่งผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน” มุ่งเน้นการบูรณาการบริหารจัดการสาธารณภัยที่เป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ กำชับเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตามนโยบายรัฐบาลและ คสช. เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ได้มาตรวจเยี่ยมกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ได้เน้นย้ำให้นำนโยบายด้านต่างๆ ของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการเทิดทูนและธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักการทรงงานเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อให้การบริหารราชการมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ในส่วนของการบริหารจัดการสาธารณภัย ได้กำชับให้ยึดหลักการทำงานภายใต้แนวคิด “ทำงานเชิงรุก รวดเร็ว ทุ่มเท จริงจัง มุ่งผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน” พร้อมมุ่งเน้นการบูรณาการบริหารจัดการสาธารณภัยที่เป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ โดยการเตรียมความพร้อมในช่วง ก่อนเกิดภัย ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนภัยที่ถูกต้อง รวดเร็ว เข้าถึงพื้นที่เสี่ยงภัย เสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายอาสาสมัครและชุมชน จัดเตรียมทรัพยากร เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติงานทันทีที่เกิดภัยพิบัติ การปฏิบัติการขณะเกิดภัย ให้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร ปฏิบัติการเผชิญเหตุให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยความรวดเร็ว และภายหลังภัยสิ้นสุด ดำเนินการช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้ประสบภัยทั่วถึง เป็นธรรม ในทุกพื้นที่ สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระยะเร่งด่วน นอกจากให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว ให้เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งควบคู่ไปด้วย โดยชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ และสถานการณ์ภัยแล้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนภัยและรณรงค์การปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เพื่อลดผลกระทบ จากการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง
นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้กำชับให้ ปภ.ขับเคลื่อนการบริหารจัดการสาธารณภัยในระยะเร่งด่วน ตามนโยบายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะด้านการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฟื้นฟูบูรณะแหล่งน้ำเดิม โดยขุดลอก ปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติที่ตื้นเขิน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ควบคู่กับการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในระดับพื้นที่ โดยเสริมสร้างความเข้มแข็งของทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล อาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัย รวมถึงพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการสาธารณภัยให้เป็นระบบและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ ประเทศไทยมีแนวทางการบริหารจัดการสาธารณภัยตามมาตรฐานสากลและคนไทยมีความปลอดภัยจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน