กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,218 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,218 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.38 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท และกลับมาปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 461 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,729 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.22% แบบ 10 บาท ลดลง 3.07% GFV14 ปิด 18,810 บาท และ GFZ14 ปิด 18,860 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,810 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,860 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,218.8 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.03ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 94.57 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 772.25 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
-เมื่อคืนนี้ทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของกลุ่มนักลงทุน หลังจากเหตุประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่ภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯชะลอตัว และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง รวมถึงการปรับตัวลงของตลาดหุ้นดาวโจนส์
-นักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในคืนวันพุธและคืนวันศุกร์ อันได้แก่ ภาคการผลิตและการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เพราะจะส่งผลต่อการพิจารณานโยบายของเฟด
-นอกจากนี้ตลาดทองคำให้ความสนใจไปยังการประชุม ECB ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า หากอีซีบีไม่มีประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆออกมาเพิ่มเติม อาจส่งผลกดดันทองคำให้ปรับตัวลดลงต่อ
-สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สิงคโปร์จะเริ่มต้นเปิดทำการซื้อขายสัญญาทองคำในรูปแบบกิโลบาร์ (25 กิโลบาร์) อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในวันที่ 13 ต.ค. นี้
-อย่างไรก็ดี การเปิดให้บริการซื้อขายสัญญาทองคำแบบกิโลบาร์ของสิงคโปร์ นับเป็นครั้งแรกของโลกและจะทำให้สิงคโปร์มีบทบาทในการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายในระดับภูมิภาค และช่วยส่งเสริมให้ตลาดทองคำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการพัฒนามากขึ้น
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 109.43 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 109.36 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าขึ้น 1.2692 ยูโร/ดอลลาร์ จาก 1.2683 ยูโร/ดอลลาร์
-สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขอนุมัติสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.0% ที่ระดับ 104.7 แสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีการฟื้นตัวที่ไม่ต่อเนื่อง
-อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีประจำเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 0.8% ซึ่งยังคงเป็นระดับต่ำมากและสร้างแรงกดดันให้อีซีบี อาจเริ่มดำเนินมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจยูโรโซนเปราะบางมากขึ้น
-คณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคของยูโรโซนประจำเดือนกันยายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 99.9 จากเดิม 100.6 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
-อียู เปิดเผยว่า ข้อตกลงการสมาคม (Association Agreement) ระหว่างอียูและยูเครน มีวัตถุประสงค์ในการขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่าง 2 ฝ่าย
-สถานการณ์ในยูเครนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารยูเครน 7 นายเสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนบริเวณสนามบินเมืองโดเนสท์ (Donetsk) ส่งผลให้ข้อหยุดยิงเกิดความเปราะบางมากยิ่งขึ้น
-ขบวนรถถังของตุรกีเคลื่อนประชิดชายแดนซีเรียหลังจากทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงโดยกลุ่มก่อการร้าย IS
-นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าเขาจะจับตาดูผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังการขึ้นภาษีการขายเมื่อเดือนเมษายน รวมถึงการขึ้นราคาเชื้อเพลิง ทั้งนี้เป้าหมายหลักยังคงเป็นการแก้ปัญหาเงินฝืดของญี่ปุ่นที่ยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี
-กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง ประกาศจะเดินหน้าประท้วงต่อไป จนกว่านายเหลียง ชุน-หยิง ผู้ว่าการเขตปกครองฮ่องกง จะลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้
-นักลงทุนในตลาดต่างๆ มีความกังวลว่า เหตุประท้วงในฮ่องกงจะสร้างความเสียหายต่อภาคธุรกิจและจะส่งผลกระทบต่อยอดค้าปลีกช่วงวันหยุดยาวในวันชาติของจีนที่จะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้
-เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.25% ปิดอ่อนแรงตามตลาดหุ้นยุโรปและฮ่องกง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากภาคที่อยู่อาศัยสหรัฐฯชะลอตัว
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยหลักจากค่าเงินดอลลาร์
-นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย คาดว่า แนวโน้ม SET อยู่ในช่วงปรับฐานเพื่อจะดีดกลับในปลายปีนี้ ขณะที่แนวโน้มของ SET50 ในวันนี้คาดว่าจะยังลงต่อหรือหากดีดตัวกลับขึ้นมาได้คงไปไม่ไกลเกิน 1065 จุด และอาจลงมาทดสอบแนวรับแรก 1140 จุดซึ่งยังคงต้องติดตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในวันที่ 1 ต.ค. และผลการประชุมอีซีบีในวันที่ 2 ต.ค. นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Core PCE Price Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 0.1%
- Personal Spending ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 0.5%
- Pending Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.2% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -1.0%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 64.3 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 61.6
- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 92.4 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 92.2
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,216-1,223 เหรียญ โดยที่มีปริมาณการซื้อขายเบาบาง ตลาดเริ่มมาให้ความสนใจในการประท้วงที่ฮ่องกงอาจจะมีการลุกลามไปกระทบถึงภาคธุรกิจในช่วงหยุดยาวของจีนที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคหรือไม่ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาออกมาไม่ค่อยดีนัก โดยภาพรวมออกมาต่ำกว่าที่คาด คือ Core PCE Price Index ออกมาที่ระดับ 0.1% Personal Spending ออกมาที่ระดับ 0.5% และPending Home Sales ออกมาที่ระดับ -1.0% โดยทีตัวเลขเศรษบกิจวันนี้คาดว่าจะไม่ค่อยดีนักคือ Chicago PMI คาดการณ์จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 61.6 และ CB Consumer Confidenceคาดการณ์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 92.2
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีการแกว่งตัวค่อนข้างมากในระดับรายชั่วโมง ในระยะยาวยังดูภาพเป็น Sideway Down อย่างช้าๆ ตามตัวเลขเศรษฐกิจ วันนี้คาดว่าราคายังเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,200-1,225 เหรียญ ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรตามการแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยอาจจะเป็นช่วง Sideways แคบๆในวันนี้ สำหรับค่าเงินบาทเองยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงวันละ 2-3 สตางค์ ทำให้ราคาทองคำของไทยอาจจะปรับตัวลดลงช้ากว่าของต่างประเทศ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไร Sideways ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,200-1,225 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้หาจังหวะในการปิดสถานะ Long Position ในโอกาสที่ราคาเด้งมาบริเวณ 1,222 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรในระยะสั้นเป็นช่วงๆ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ภาพระยะกลางกับระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาลง
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,710 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,910 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,760 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,960 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.