สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 15, 2014 10:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,234 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,232 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.50 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท และกลับมาปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 412 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,567 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.8% แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 2.7% GFV14 ปิด 19,050 บาท และ GFZ14 ปิด 19,120บาท GF10V14 ปิดที่ 19,060 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,110 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,234.3 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 3.9 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 81.84 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 761.23 ตัน (เท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ -เมื่อคืนนี้ราคาทองคำได้ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และใกล้ทำจุดสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุน ที่เริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว -นาย แดนนี่ เลดเลอร์ ผู้อำนวยการกองทุนอีทีเอฟ ซีคิวริตี้ ประจำออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เผยว่า กองทุนทองคำเริ่มมีการซื้อทองคำเพิ่มเป็นครั้งแรกในเดือนนี้ หลังจากเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจของเยอรมนีช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนกลับมาถือครองทองคำในฐาน Safe-Heaven -นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส ระบุว่า ภาพทางเทคนิคราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้นระยะสั้น และคาดว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,240 เหรียญได้ ขณะที่ภาพระยะยาวของทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาลง -ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้สู่ระดับ 1.2645 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2679 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนแสดงให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจในภูมิภาคยูโรโซนกำลังเปราะบางอย่างมาก -หน่วยงาน ZEW เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวลดลงสู่ระดับ -3.6 จากระดับ 6.9 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี (นับตั้งแต่ พฤศจิกายน 2012) -เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของยูโรโซนที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักสู่ระดับ 4.1 จากระดับ 14.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี (นับตั้งแต่ ธันวาคม 2012) -ทางด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนประจำเดือนกันยายน ปรับตัวลดลง -1.8% จากระดับ 0.9% บ่งชี้ให้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจของยูโรโซนเข้าสู่ภาวะอ่อนแอ -นอกจากนี้ รัฐบาลเยอรมนี ปรับลดคาดการณ์จีดีพีประจำปี 2557 หลังเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเมืองในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยปรับลดลงอย่างมากสู่ระดับ 1.2% จากระดับ 1.8% ขณะที่จีดีพีปีหน้าจะเติบโตเพียง 1.3% จากคาดการณ์เดิม 2% -ถ้อยแถลงของประธานอีซีบีในวันนี้ อาจจะเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจยูโรโซนด้วยมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร รวมถึงแสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของเยอรมนี ขณะเดียวกันอาจมีการกล่าวถึงแผนการดำเนินการทางการเงินที่อาจเริ่มขึ้นในช่วงกลางปีหน้า -ขณะที่อัตราเงินเฟ้อประจำเดือนกันยายนของอังกฤษ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.2% จากเดิม 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี (นับตั้งแต่ กันยายน 2009) และต่ำกว่าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) กำหนดไว้ที่ระดับ 2% จึงมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ -อย่างไรก็ดี ภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ธนาคารกลางต่างๆยับยั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย -สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สหรัฐฯเพิ่มกำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย IS ที่รุกรานบริเวณชายแดนซีเรียที่ติดกับพรมแดนของตุรกี -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานของนักลงทุน หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก -เช้านี้ ดัชนีนิเกอิเปิด +0.49% เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ดัชนีนิเกอิร่วงลง 954 จุด หรือคิดเป็น 6% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.60 บาท/ดอลลาร์ และมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่องหากสามารถยืนเหนือ 32.50 บาท/ดอลลาร์ได้ -นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย คาดการณ์ว่า ดัชนี SET50 จะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ลักษณะ Sideways มีโอกาสลงไปทดสอบ low เดิมบริเวณ 1,017 จุด เนื่องจากตลาดยังคงรับกับข่าวเดิมๆ ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงภาพรวมของนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแรงเทขายไหลออกต่อเนื่อง ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ -Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ0.2% -PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.1% -Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.6% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ -0.1% -Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1%คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 0.1% -Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 27.5 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 20.3 -ECB President Draghi Speaks -Beige Book ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนโดยมีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนสุดที่ระดับประมาณ 1,238 เหรียญ และเกิดมีแรงเทขายลงมา ทำให้ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,234.3 เหรียญ และในเช้าวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงสู่ระดับ 81.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก IEA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันทั่วโลก สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ PPIที่คาดว่าจะปรับลดลง ขณะที่ Core Retail Sales, Retail Sales และ Empire State Manufacturing Index คาดว่าจะออกมาแย่ลง ทางด้าน Core PPI คาดการณ์ว่าจะทรงตัว ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 761.23 ตัน อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ออกมาไม่ดี โดยเฉพาะเยอรมนี เป็นตัวกดดันให้ค่าเงินยูโรปรับตัวลง และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า จึงส่งผลทำให้เงินบาทอ่อนค่าจากระดับ 32.42 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 32.55 บาท/ดอลลาร์ในเช้าวันนี้ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำเมื่อวานไม่สามารถฝ่าเหนือระดับ 1,240 เหรียญขึ้นไปได้ และการปรับแข็งค่าของเงินดอลลาร์ทำให้มีแรงเทขายในทองคำ โดยเช้านี้ราคาหลุด 1,230 เหรียญลงมา ลักษณะทางด้านเทคนิคเริ่มเป็นสัญญาณการกลับตัวในทิศทางขาลงอีกครั้งหนึ่ง โดยที่กราฟระยะสั้นราคาหลุดระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันแล้ว และเริ่มทำจุดต่ำสุดใหม่กว่าเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1,225 เหรียญโดยประมาณ ในเชิงเทคนิคดูว่าราคาทองคำเริ่มกลับมาเป็นขาลงอีกครั้งหนึ่งในระยะสั้นจากกราฟราย 15 นาทีและราย 1 ชั่วโมง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอดในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา วันนี้คาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,210-1,230 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำของไทยอาจจะทรงตัวใกล้เคียงเดิม เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างมากเช่นเดียวกัน กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำให้กลับมาทำกำไรลักษณะขาลงอีกครั้งหนึ่ง โดยเล่นตามการแกว่งตัวของตลาด - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะปิดสถานะ Long เมื่อราคาดีดตัวขึ้น หรือเริ่มมีทำ Stop Loss เอาไว้ - นักลงทุนที่ถือ Short Position ทำกำไรระยะสั้น เล่นตามการแกว่งตัวของตลาด กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ยังคงเก็งกำไรในทิศทางขาลงเช่นเดิม Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,960 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,160 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,200 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 1) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 16 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 และวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาระดับ Exclusive ในหัวข้อ “เทรด TFEX อย่างโปรด้วย MT4” ในวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00-12.00น. ณ MTS Gold สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ