กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--พม.
วันนี้ (๑๖ ต.ค.๕๗) เวลา ๐๙.๓๐ น. ว่าที่ร้อยตรีศรันย์ สมานพันธ์ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (อุ้มบุญ) เพื่อเปิดพื้นที่ในการขับเคลื่อนระบบงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการอุ้มบุญ ณ ห้องประชุม ชั้น ๘ อาคารใหม่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ
ว่าที่ร้อยตรีศรันย์ สมานพันธ์ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประชุมเพื่อขับเคลื่อนระบบงานด้านการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (อุ้มบุญ) เมื่อวันที่ ๒ ต.ค.๕๗ ณ ห้องประชุม ชั้น ๘ อาคารใหม่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ (พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว) เป็นประธาน ซึ่งผลการประชุมมีการนำเสนอผลการช่วยเหลือเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ ว่าปัจจุบันมีเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ อยู่ในสถานสงเคราะห์ของกระทรวงฯ จำนวน ๑๓ คน โดยการช่วยเหลือใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ บริการที่จัดให้เป็นการดูแลด้านสุขภาพ ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เปิดโอกาสให้แม่อุ้มบุญได้พบบุตร และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดูแลสิทธิประโยชน์ของเด็ก และผู้ที่ตั้งครรภ์แทน ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงฯ เป็นเจ้าภาพเพื่อพิจารณาสถานะของเด็กทั้ง ๑๓ คน พร้อมทั้งขั้นตอนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การส่งคืนเด็กต้องส่งให้ใคร แนวทางการดูแลเด็กในระยะยาว และการป้องกันแก้ไขปัญหาการอุ้มบุญในระยะยาวต่อไป ควรหารือผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้มีความชัดเจนโดยเร็ว ทั้งในแง่กฎหมาย จิตวิทยา และสังคม รวมทั้งการหารือเกี่ยวกับโครงสร้างการดำเนินงานเรื่องการอุ้มบุญที่แต่ละหน่วยงานดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ว่าที่ร้อยตรีศรันย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ ในที่ประชุมมีการหารือแนวทางการช่วยเหลือเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ โดยให้ใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ไปพลางก่อน เพื่อให้เด็กได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ระหว่างรอ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันทางการแพทย์ พ.ศ... ประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ส่วนผู้ที่เป็นแม่อุ้มบุญ ทางกระทรวงฯ ก็ให้การดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิด้วยเช่นกัน