สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 21, 2014 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,236 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,243 เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.31 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,900 บาท กับ 19,000 บาท และกลับมาปิดที่ 18,900 บาท กับ 19,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 661 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,078 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4.25% แบบ10 บาท ลดลง 3.0% GFV14 ปิด 19,100 บาท และ GFZ14 ปิด 19,150 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,090 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,150 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 5.7 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,244.7 ดอลลาร์/ออนซ์ NYME 4 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 82.71 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR (ขายออก 8.97 ตัน) ถือครองทองคำที่ระดับ 751.96 ตัน ข่าวที่สำคัญ -นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส ระบุว่า ทองคำปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงในรอบหนึ่งเดือนสู่ระดับ 1,249.3 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และปริมาณความต้องการทองคำในจีนและอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้น -นายแซม ลาฟลิน นักวิเคราะห์จาก MKS Group กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในสัปดาห์นี้ หลังจากเริ่มมีการฟื้นตัวจากสัปดาห์ที่แล้ว จากแรงเทขายที่แข็งแกร่ง ดังนั้นราคาทองคำมีโอกาสจะทดสอบแนวต้านแรก 1,250 เหรียญ ขณะที่แนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 1,200-1,225 เหรียญ ก่อนจะค่อยๆปรับตกลงมาบริเวณ 1,200 เหรียญอีกครั้ง -นักวิเคราะห์จากคิทโก ระบุว่า ในเชิงเทคนิคราคาทองคำกำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยของ Fibonacci Retracement ขั้นต้นที่ระดับแนวต้าน 38.2% หรือบริเวณ 1,246 เหรียญ/ออนซ์ และทองคำมีโอกาสทดสอบระดับแนวต้านเป้าหมาย 50% บริเวณ 1,265 เหรียญ และระดับ 61.8% บริเวณ 1,284.80 เหรียญได้ตามลำดับ -อย่างไรก็ดี การขึ้นของทองคำเป็นเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากภาพหลักระยะยาวยังคงแสดงให้เห็นว่าเป็นทิศทางขาลง -เมื่อวานนี้ SPDR เทขายออก 8.97 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 751.96 ตัน -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าขึ้น 1.2807 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2775 ยูโร/ดอลลาร์ แต่ยังคงมีการเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากตลาดจับตาการเปิดเผยข้อมูล CPI ประจำเดือนกันยายนของสหรัฐฯที่จะเปิดเผยในวันพุธนี้ เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่เฟดจะนำมาพิจารณาประกอบเกี่ยวกับนโยบายการเงินในการประชุมสัปดาห์หน้า -อย่างไรก็ดี ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีความไม่แน่นอน หลังจากที่นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนหลุยส์ กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดควรเลื่อนการสิ้นสุด QE และพิจารณาเกี่ยวกับระยะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ย -ขณะที่เมื่อวานนี้ นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดควรยุติโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนนี้ -ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง 4 วันทำการเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากมีรายงานว่า กองทุนบำนาญของญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรและหุ้นในต่างประเทศประมาณ 30% จากระดับ 23% จึงกระตุ้นให้นักลงทุนเกิดความต้องการสกุลเงินต่างประเทศ -เมื่อวานนี้ อีซีบี ได้เริ่มดำเนินการซื้อตราสารหนี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรป แลเพื่อกระตุ้นให้ธนาคารต่างๆปล่อยสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจในระบบเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงเป็นการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย -บุนเดสแบงก์ (ธนาคารกลางเยอรมนี) ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในช่วงครึ่งปีต่อจากนี้ จะมีความคล้ายคลึงกับเศรษฐกิจที่เกิดการชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.7% ในช่วงต้นปี -คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนสิงหาคมของอิตาลี ปรับตัวสูงขึ้น 1.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เพราะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในและภายนอกประเทศ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของอิตาลีจะยังอยู่ในภาวะเปราะบาง -สำนักข่าวบลูมเบิร์ก อ้างอิงรายงานของคอนเฟอร์เรนซ์บอร์ด โดยระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงประมาณ 4%หลังจากปี 2020 จากภาวะชะลอตัวอย่างรุนแรงของโครงสร้างเศรษฐกิจเชิงลึกและการขยายตัว -ตลาดน้ำมันดิบ ยังคงได้รับแรงกดดันจาก IEA ที่ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า รวมถึงกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่อาจปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อยับยั้งการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ซึ่งอาจมีการประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมวันที่ 27 พ.ย. -อย่างไรก็ดี มีกระแสข่าวว่า นายฮันซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน สั่งการให้กระทรวงน้ำมันใช้วิธีทางการทูตเพื่อยุติการร่วงลงของราคาน้ำมัน -กองทัพสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินกู้ภัยเพื่อส่งของช่วยเหลือแก่กองกำลังภาคพื้นดินชาวเคิร์ดในการปกป้องเมืองโคบานี จากกลุ่มก่อการร้าย IS -อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์ในเมืองโคบานียังคงเปราะบาง และอาจถูกกลุ่มก่อการร้าย IS ยึดเมืองได้สำเร็จ แม้ว่าสหรัฐจะร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องก็ตาม -ทางด้านทูตอียิปต์ เรียกร้องให้อิสราเอลและปาเลสไตน์ หารือเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและสันติในฉนวนกาซาในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เกิดแนวทางที่ยั่งยืน -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.12% ซึ่งเป็นการปิดแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชน พร้อมทั้งจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัทโบอิ้ง และแคทเทอร์พิลลาร์ -ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชน -นักบริหารเงิน กล่าวว่า แนวโน้มของวันพรุ่งนี้มีโอกาสจะแข็งค่าต่อเนื่อง จึงคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.35 บาท/ดอลลาร์ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.05M ตัวเลขคาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 5.11M ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยปรับตัวสูงขึ้นตามการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ เป็นอีกครั้งที่ราคาทองคำทดสอบจุดสูงสุดสัปดาห์ที่แล้วบริเวณ 1,248 เหรียญ โดยที่เมื่อวานไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ขณะที่ SPDR เทขายทองคำเพิ่ม 8.97 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 751.96 ตัน สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอเมริกาวันนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น สำหรับค่าเงินดอลลาร์ยังคงมีทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับบาท ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ระดับประมาณ 32.28 บาท/ดอลลาร์ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง อาจจะมีการทดสอบแนวต้านด้านบนบริเวณ 1,250 เหรียญ โดยทิศทางแนวโน้มระยะสั้นยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลดลงและชนแนวรับก่อนจะดีดกลับขึ้นมาจากบริเวณ 1,232 เหรียญ แนวต้านใหม่จะอยู่ที่บริเวณ 1,255 เหรียญ โดยที่ระดับ 50% ของ Fibonacci Retracement จะอยู่ที่ระดับ 1,263 เหรียญ ซึ่งจะตรงกับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน โดยภาพรวมระยะยาวทางเทคนิค ยังถือว่าเป็นแนวโน้มขาลง ระยะสั้นเป็นลักษณะของ Technical Rebound อยู่ยังไม่จบสิ้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เก็งกำไรตามการแกว่งในกรอบรายวันระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position เก็งกำไรตามการแกว่งตัวระยะสั้นในกรอบ 1,230-1,255 เหรียญ บริหารพอร์ตให้สมดุล กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading แนะนำให้ Wait & See โดยส่วนใหญ่ไม่ต้องทำอะไร ยังคงเก็งกำไรขาลง บริหารพอร์ตให้สมดุล และเหมาะสมกับสภาพตลาดที่ผันผวนค่อนข้างมาก โดยบริหารความเสี่ยงให้ดี และเหมาะสมกับสภาพของเงิน Marginไม่เช่นนั้นจะถูก Call Margin Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,200 บาท Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,250 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เนื่องใน วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2557 ตรงกับ “วันปิยมหาราช” ซึ่งเป็นวันหยุดของกลุ่มบริษัทห้างทองแม่ทองสุก และ Gold Futures รวมถึงธุรกรรมการเงิน และการรับส่งทองทุกสาขา **ระบบซื้อขายGold Phone และ Gold Online เปิดทำการปกติ รวมถึงร้านทองดิโอลด์สยาม ชั้น 1, ร้านทองสาขาวงเวียนใหญ่ และร้านทองสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น G สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02 770 7777 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 1) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 30 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ