โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ป่าตอง บีช พร้อมเปิดให้บริการ ชูจุดเด่นทำเลดีใจกลางแหล่งท่องเที่ยว

ข่าวท่องเที่ยว Tuesday October 21, 2014 13:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ชมฉวีวรรณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ป่าตอง บีช พร้อมเปิดให้บริการ ชูจุดเด่นทำเลดีใจกลางแหล่งท่องเที่ยว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ เบสท์เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดในจังหวัดภูเก็ต ในชื่อ “โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ป่าตอง บีช” ชูจุดเด่นด้วยโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอป่าตอง จ.ภูเก็ต ใกล้ศูนย์การค้าจังซีลอนและผับสตรีทชื่อดัง โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบที่ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่ โดยได้รับเกียรติจาก มร. เกลน เดอ ซูซา รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ-เอเชียและตะวันออกกลาง เบสท์เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมแสดงความยินดี นายเมธาพงศ์ อุปัติศฤงค์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ป่าตอง บีช กล่าวว่า โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น ป่าตอง บีช เริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดเด่น คือ ทำเลที่ตั้งท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังใน อ.ป่าตอง อาทิ ศูนย์การค้าจังซีลอน และผับสตรีทชื่อดัง ที่พร้อมพรั่งไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง และแหล่งบันเทิงมากมาย โดยตั้งอยู่ห่างจากชายหาดป่าตองเพียง 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าพักตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก ด้วยห้องพักรวม 224 ห้อง โดยเน้นคอนเซ็ปต์การตกแต่งโรงแรมและห้องพักในสไตล์โมเดิร์น ที่ให้ความรู้สึกทันสมัยและมีระดับ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องอาหาร ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำพร้อมบาร์เครื่องดื่มบนดาดฟ้า ที่ผู้เข้าพักสามารถชมบรรยากาศความงามยามพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม แม้อยู่ใจกลางเมือง พร้อมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย (wifi) ที่ให้บริการฟรีครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งโรงแรม “ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวที่เกาะภูเก็ตกว่า 10 ล้านคน ซึ่งภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ อีกทั้งเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวมากที่สุดของประเทศ (ล่าสุดรายได้ในไตรมาส4 ปี 2556 รายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ตสูงถึง 67,082 ล้านบาท) ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดตัวของโรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น ป่าตอง บีช แห่งนี้ จะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่เน้นความสะดวกสบาย คล่องตัวด้วยที่พักที่อยู่ในใจกลางเมือง อีกทั้งยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยตั้งแต่เปิดให้บริการได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเข้าพักอย่างต่อเนื่อง” นายเมธาพงศ์ กล่าว พร้อมกันนี้ มร. เกลน เดอ ซูซา รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ-เอเชียและตะวันออกกลาง เบสท์เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ให้เกียรติร่วมงานในครั้งนี้ ได้เปิดเผยถึงทิศทางการขยายธุรกิจของ เบสท์ เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล ว่า “สำหรับโรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ป่าตอง บีช แห่งนี้ถือเป็นโรงแรมลำดับที่ 12 ของโรงแรมในเครือ เบสท์เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนลในประเทศไทยและเป็นโรงแรมลำดับที่ 3 ของเครือในจังหวัดภูเก็ต ตอบรับกับทิศทางในเชิงบวกและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยในระหว่างนี้ยังมีอีก 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวหิน ซึ่งเตรียมเปิดบริการในปี 2559 นอกจากนี้ สำหรับการขยายธุรกิจในประเทศอื่นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เบสท์เวสเทิร์น อินเตอร์ เนชั่นแนล ได้มีแผนการที่จะเพิ่มจำนวนโรงแรมเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเซียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเตรียมเปิดโรงแรมในประเทศอินโดนีเซีย รวมกว่า 20 แห่งในปี 2558 และในประเทศมาเลเซียรวมกว่า 9 แห่ง ภายในปี 2561 ในส่วนของประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซาอุดิอาระเบีย ถือเป็นประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุด โดย เบสท์ เวสเทิร์น มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวโรงแรมเพิ่มอีกกว่า 10 แห่งในเร็วๆนี้ “อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตามแผนกลุทธ์ในการขยายธุรกิจของเครือเบสท์ เวสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่ชื่นชอบความทันสมัย สะดวกสบาย ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าเป็นสำคัญ และสำหรับประเทศไทยถือได้ว่าเป็นเป้าหมายการเดินทางที่สำคัญของนักเดินทางคนรุ่นใหม่จากทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อเที่ยวบินไปสู่ประเทศอื่นๆ อีกทั้งประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ธรรมชาติ แหล่งบันเทิง แหล่งช้อปปิ้ง อีกทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ให้ Value for Money หรือเรียกว่ามีความคุ้มค่าในการเดินทางด้วยค่าครองชีพที่ไม่สูงจนเกินไป” มร. เกลน เดอ ซูซา กล่าวในตอนท้าย
แท็ก เนชั่น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ