พละกำลังเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นผสานกับประสิทธิภาพที่คล่องตัว – ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ใหม่ล่าสุด

ข่าวยานยนต์ Wednesday October 22, 2014 10:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส บริษัทเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด. ปอร์เช่ส่ง 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) เจเนอเรชั่นที่ 2 เข้าสู่สายการผลิตโดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ทั้งคูเป้และคาบริโอเลต (เปิดประทุน) โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่เข้ามาเติมเต็มระหว่างรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถสปอร์ตที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงแม้จุดประสงค์หลักในการผลิตเพื่อใช้ในการแข่งขันบนสนามแข่ง 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) คือ รถที่เต็มไปด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้นผสานกับความคล่องตัว และสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่โดยรถสามารถสร้างพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 430 แรงม้า (316 กิโลวัตต์) มาพร้อมกับ Sport Chrono Package และระบบช่วงล่าง PASM active damper ช่วยลดระดับความสูงของรถได้อีก 10 มิลลิเมตร ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเร่งและความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเหมือนกับ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ทำได้ในระยะเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น (รุ่นคาบริโอเลตทำได้ในระยะเวลา 4.2 วินาที) ความเร็วสูงสุดของรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่ละรุ่นมากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง; โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับรุ่นคูเป้ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดาและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หากมองด้านจุดเด่นที่เพิ่มเข้ามาจะพบว่ารุ่นท็อปใหม่ล่าสุดมีราคาที่น่าดึงดูดใจด้วยจำนวนของอุปกรณ์มาตรฐานที่รวมอยู่ในรถที่ครบครันและคุ้มค่า อาทิเช่น ระบบไฟหน้าแบบไบซีนอน ที่มาพร้อมกับระบบไฟเลี้ยว Porsche Dynamic Light System (PDLS) และระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทำให้เสียงของรุ่นจีทีเอส (GTS) ดุดันและสมบูรณ์แบบ ด้านหน้าโซนคนขับและผู้โดยสารมาพร้อมกับการตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนัง Alcantara และส่วนแผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Alcantara เช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น จีทีเอส (GTS) จากปอร์เช่นั่นเอง ภายนอกของปอร์เช่ 911 ใหม่ล่าสุดจะเหมือนกับรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่แตกต่างจากรุ่นคาร์เรร่า (Carrera) ทั่วไป โดยมาพร้อมกับตัวรถของรุ่น 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ที่มีระยะฐานล้อด้านหลังที่กว้างขึ้น ล้อขนาด 20 นิ้วถูกติดตั้งมาเป็นล้อมาตรฐานพร้อมด้วยดุมล้อสีดำ ส่วนด้านหน้าจะมาพร้อมกับชิ้นส่วนขอบที่มีสีตัดกันได้อย่างลงตัว และไฟหน้าไบซีนอนแบบ smoked bi-xenon headlights ขอบสีดำบนช่องดักอากาศจะทำให้รุ่น จีทีเอส (GTS) มีความโดดเด่นผสานเข้ากับปลายท่อ chrome-plated exhaust tailpipes สีดำได้อย่างลงตัว และนี่คือเอกลักษณ์ของรุ่น จีทีเอส (GTS) การเข้ามาเสริมทัพด้วยรุ่นท็อปใหม่ล่าสุดเหล่านี้ที่ทำให้ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) มีทั้งหมด 12 รุ่นด้วยกัน และมีพละกำลังเครื่องยนต์ที่ต่างกันถึง 3 ระดับ ทั้งคูเป้และคาบริโอเลต ระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส คูเป้ (911 Carrera GTS Coupe): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบขับขี่ในเมือง 13.7–12.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.3 – 8.2 กิโลเมตร/ลิตร); นอกเมือง 7.5 – 6.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (13.3 – 14.9 กิโลเมตร/ลิตร); เฉลี่ย 9.5 – 8.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.5 – 11.5 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 223 – 202 กรัม/กิโลเมตร 911 คาร์เรร่า จีทีเอส คาบริโอเลต (911 Carrera GTS Cabriolet): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบขับขี่ในเมือง 13.7 – 12.3 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.3 – 8.1 กิโลเมตร/ลิตร); นอกเมือง 7.6 – 6.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (13.1 – 14.5 กิโลเมตร/ลิตร);เฉลี่ย 9.7 – 8.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.3 – 11.2 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 228 – 207 กรัม/กิโลเมตร 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส คูเป้ (911 Carrera 4 GTS Coupe): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบขับขี่ในเมือง 13.8 – 12.5 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.2 – 8.0 กิโลเมตร/ลิตร); นอกเมือง 7.7 – 7.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (13.0 – 14.1 กิโลเมตร/ลิตร); เฉลี่ย 9.9 – 9.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.1 – 11.0 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 233 – 212 กรัม/กิโลเมตร 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส คาบริโอเลต (911 Carrera GTS Cabriolet): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบขับขี่ในเมือง 13.9–12.5 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.2 – 8.0 กิโลเมตร/ลิตร); นอกเมือง 7.7 – 7.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (13.0 – 14.1 กิโลเมตร/ลิตร); เฉลี่ย 10.0 – 9.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.0 – 10.8 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 235 – 214 กรัม/กิโลเมตร ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ