กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--IR Network
บล.เออีซี มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยโค้งสุดท้ายปลายปี”57 คาด SET Index ทะยานแตะ 1,700-1,760 จุด เงินทุนไหล-แรงซื้อ Big Cap หนุน พร้อมแนะกลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้นที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ-ให้ผลตอบแทนคาดหวังสูง ส่วนหุ้นเด่นในไตรมาส 4/57 ยกนิ้วให้ CKP,SF,TPIPL ขณะที่ 4 กลุ่มโดดเด่นในปี”58 คือ กลุ่มอสังหาฯ ,กลุ่มท่องเที่ยว ,กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มสินเชื่อการบริโภค
มุมมองตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้
นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ นักวิเคราะห์กลยุทธ์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรายังคงประเมิน SET ที่ 1,700-1,760 จุด โดยคาดว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศจะกลับมาเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันตลาดหุ้นไทย ซึ่งแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 44,000 ล้านบาท (ณ เดือนกันยายน 2557.) มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,552 จุด ฉะนั้น SET จะต้องปรับตัวขึ้นเลยระดับ 1,700 จุด จึงจะเป็นจุดที่นักลงทุนต่างประเทศจะมีกำไรเกิน 10% ทั้งนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ SET 33% (จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน) ถูกผลักดันจากหุ้น Small Cap แต่ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ประเมินว่าจะเห็นหุ้นในกลุ่ม Big cap เริ่มเป็นตัวสนับสนุนตลาดแทน ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดว่าจะมีการออกนโยบายอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป หลังจากเห็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่คาดและการใช้นโยบายการเงินด้านอัตราดอกเบี้ยไม่เพียงพอต่อการฟื้นตัว คาดว่าส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส4/57ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558
หุ้นใน SET 50 จะกลับมาผลักดัน SET Index แตะ 1,700 จุด
มุมมองด้านเศรษฐกิจไทยในปี”58
อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่ง โดย GDP มีโอกาสสูงสุดในไตรมาส 1/2558 อยู่ที่ 6% โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาจากภาครัฐฯ เป็นปัจจัยหลัก ทั้งทางตรง ได้แก่ งบลงทุน 4.5 แสนล้านบาท นโยบายด้านปฏิรูปพลังงานและ แผนการประมูลโรงไฟฟ้า (แผนPDPฉบับแก้ไข) และการฟื้นตัวทางอ้อม ได้แก่ นโยบายกระตุ้นภาคการบริโภคและการท่องเที่ยว
กลยุทธ์การลงทุน : เลือกหุ้นที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจได้ดีและให้ผลตอบแทนคาดหวังสูง
โดยประเมินว่าอุตสาหกรรม 4 กลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2558 ได้ดี ได้แก่ อสังหาฯ, ท่องเที่ยว, ยานยนต์ และสินเชื่อการบริโภค มีเพียงเฉพาะกลุ่มบันเทิงที่คาดว่าการฟื้นตัวได้น้อย เนื่องจากผลของการเปลี่ยนแปลง TV Digital (สื่อOutdoor, โรงภาพยนต์ยังขยายตัวได้ดี) สำหรับหุ้น Top Pick ในไตรมาส4/57 ได้แก่ CKP, SF, TPIPL พร้อมมองว่า หุ้น Big cap ที่เป็นเป้าหมายในการผลักดัน SET ไป 1,700 จุดได้แก่ PTT, SCC, BCP, MINT, KTB, AOT, ADVANC, INTUCH
เจาะลึกหุ้นเด่น
CKP เป็นหุ้นลงทุนที่น่าสนใจระยะยาว ราคาพื้นฐาน 23.5 บาท
1.มีประสบการณ์ครบในธุรกิจโรงไฟฟ้า 3 กลุ่มหลักได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ(Hydro Power), โรงไฟฟ้า Cogeneration, และโรงไฟฟ้า Solar 2.แผนการผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโตในระยะ 5 ปี ข้างหน้า จาก 755 MW เป็น 2,300 MW คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 27% 3.Best Play บนแผน PDP ฉบับใหม่ปีหน้า Track record ในอดีตที่ดี ทำให้เป็น 1 ใน candidate สำคัญสำหรับการประมูลโรงไฟฟ้าตามแผน PDP ใหม่ปีหน้า ผลักดันการเติบโตระยะยาว 4.ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน มีโอกาสเข้ามาเสริมการเติบโตระยะใกล้ โดยบริษัทมีแผนเข้าประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (Solar, ลม) รวม 100 MW เพิ่มเมกะวัตต์ ในระยะ 2 ปีหน้า และ 5. Strong Balance sheet บริษัทมีระดับหนี้สินต่อทุน (D/E) 1 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าและมีโอกาสได้ประโยชน์จากการลดต้นทุน โดยการออกหุ้นกู้ในอนาคต
TPIPL: เตรียมความพร้อมสู่การฟื้นตัวปี 2558 ราคาพื้นฐาน 25 บาท
โดยผลการดำเนินงานหลักมีโอกาสเติบโตจาก กำลังการผลิตปูนซีเมนท์เพิ่มสู่ 13.5 ล้านตัน (vs 9 ล้านตันในปัจจุบัน) ทั้งนี้อุตสาหกรรมปูนซีเมนท์มีแนวโน้มเติบโตปี 2558 ตามโครงการลงทุนภาครัฐฯ ขณะที่แผนการลงทุนเริ่มปรับตัวออกจากธุรกิจปิโครเคมีสู่ธุรกิจจำหน่ายไฟ บริษัทมีโครงการลงทุนโรงไฟฟ้ากำจัดขยะโดยมีกำลังการผลิตรวม 135 MW เพื่อใช้ 1) ลดต้นทุนกำลังการผลิต 2) จำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์(Net Adder 3.5 บาท)
SF : ธุรกิจ Lifestyle Community mall เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น ราคาพื้นฐาน 9 บาท
หลากหลายปัจจัยผลักดันผลการดำเนินงาน 1) รายได้ค่าเช่ามีแนวโน้มปรับเพิ่ม, อัตราการใช้พื้นที่เช่าสูงถึง 95%, Revenue Sharing จาก IKEA ขยายตัวได้แข็งแกร่งกว่าที่คาด, การฟื้นตัวของพื้นที่เช่าจัดธุรกิจ Events หลากหลายช่องทางการเติบโตของพื้นที่เช่าใน Community Mall: SF มีแนวโน้มการขยายธุรกิจพื้นที่เช่า 1.5 แสนตรม. ทั้งจาก 1) ขยายพื้นที่เช่าใน Community Mall ปัจจุบัน (Mega, Market Place) และจาก การเปิด Community Mall ใหม่ในต่างจังหวัด