กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ อาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่ารับรู้และยึดถือค่านิยมหลัก 12 ประการตามที่รัฐบาลรณรงค์หรือไม่ ประการใด
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,147 คนสามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.92 ขณะที่ร้อยละ 49.08 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 38.45 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 18 ถึง 21 ปี และส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าคิดเป็นร้อยละ 34.61
ในด้านความรับรู้เกี่ยวกับการรณรงค์ให้ยึดถือค่านิยมหลัก 12 ประการ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 88.06 ทราบข่าวเกี่ยวกับการรณรงค์ให้คนไทยยึดถือค่านิยมหลัก 12 ประการ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.94 ไม่ทราบข่าว ส่วนความรับรู้เกี่ยวกับเนื้อหาค่านิยมหลัก 12 ประการนั้น กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 33.57 ทราบค่านิยมหลัก 12 ประการอยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 25.98 ทราบน้อยกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 12 ประการ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 13.86 และร้อยละ 9.94 ที่ทราบมากกว่าครึ่งหนึ่งและทราบทั้งหมดทุกประการตามลำดับ และมีกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 16.65 ที่ยอมรับว่ายังไม่ทราบเลย
สำหรับค่านิยมหลักที่มีความสำคัญที่สุดตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คิดเป็นร้อยละ 85.18 รองลงมาคือ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม คิดเป็นร้อยละ 83.09 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 80.03 ร้อยละ 77.77 และร้อยละ 75.41 ระบุว่า กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์, ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม และ มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนาตามลำดับ
ในด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมหลัก 12 ประการ กลุ่มตัวอย่างประมาณครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 50.57 เชื่อว่าค่านิยมหลัก 12 ประการนี้จะสามารถปฏิบัติได้จริงทุกข้อ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.96 ไม่เชื่อว่าจะปฏิบัติได้จริงทุกข้อ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 69.05 มีความคิดเห็นว่าควรนำค่านิยมหลัก 12 ประการบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนในระดับประถม-มัธยมศึกษา นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 66.09 เห็นด้วยว่าการยึดค่านิยมหลัก 12 ประการ จะทำให้คนในชาติมีความสามัคคีและประเทศชาติมีความสงบสุข ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 24.32 ไม่เห็นด้วย และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 9.59 ไม่แน่ใจ
ส่วนวิธีการที่จะช่วยทำให้เด็ก-เยาวชนสามารถจดจำค่านิยมหลัก 12 ประการได้ง่ายที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ จัดทำเป็นอาขยาน คิดเป็นร้อยละ 81.26 จัดทำเป็นบทเพลง คิดเป็นร้อยละ 78.73 และจัดทำเป็นบทละคร/นิทานเผยแพร่ คิดเป็นร้อยละ 75.76