กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--การกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้คณะเยาวชนโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ประจำปี ๒๕๕๗ เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาท ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมโครงการเรือเยาวชนฯ ประจำปี ๒๕๕๗ ณ ประเทศอาเซียนและญี่ปุ่น
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ตนขอแสดงความยินดีกับเยาวชนทุกคนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยไปเข้าร่วมโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ประจำปี ๒๕๕๗ การที่ทุกคนได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการที่มีชื่อเสียง และดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นเวลานานถึง ๔๑ ปี พร้อมทั้งได้เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง ย่อมเป็นที่วางใจ ได้ว่าทุกคนเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนประพฤติตนได้อย่างเหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทนเยาวชนไทย ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือ และเสริมสร้างมิตรภาพและความเข้าใจอันดีในกลุ่มเยาวชนจากประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ อีก ๑๐ ประเทศ อันนำไปสู่ความเข้าใจอันดีและความร่วมมือในด้านต่างๆ ในอนาคต
การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทนเยาวชนของประเทศ นอกจากจะต้องอาศัยความรู้ ความสามารถแล้ว จะต้องมีคุณสมบัติอื่นๆด้วย คือ การมีน้ำใจโอบอ้อมอารี เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน รู้จักการให้อภัย และความอดทนอดกลั้น เพราะการเข้าร่วมโครงการฯ เป็นการเดินทางร่วมกันของเยาวชนจากประเทศต่างๆ รวม ๑๑ ประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ในเรื่องวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนอุปนิสัยใจคอ ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของความไม่เข้าใจกัน และอาจจะนำไปสู่การกระทบกระทั่งกันได้ ดังนั้น หากทุกคนมีคุณสมบัติตามที่กล่าวข้างต้น ย่อมเป็นพื้นฐานแห่งการอยู่ร่วมกันที่นำมาซึ่งความเข้าใจและเกิดมิตรภาพที่ดี
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่สำคัญอีกประการที่อยากจะเน้นย้ำให้เยาวชนเห็นความสำคัญก็คือ ความพร้อมที่จะไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งมีความแตกต่างไปจากชีวิตประจำวันที่คุ้นเคย ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้เยาวชนทุกคนเริ่มเตรียมความพร้อมใน ๓ ส่วน คือ ๑)เตรียมสุขภาพร่างกายให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง เพราะในการเดินทางเป็นระยะเวลานานๆ นั้นอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้า อ่อนแอ นำมาซึ่งความเจ็บป่วยได้ ๒)เตรียมใจ ที่จะไปเปิดรับสิ่งใหม่ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากการเดินทางไปท่องเที่ยวธรรมดา และ ๓)เตรียมความพร้อมของคณะเยาวชนให้สามารถทำงานร่วมกันได้ เพื่อให้กลุ่มมีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะเข้าร่วมในทุกๆกิจกรรม เพราะการทำงานใดๆ ก็ตาม จะต้องอาศัยความสามัคคี ความรับผิดชอบ และความมีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
ทั้งนี้ “ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เยาวชนทุกคนที่ได้มีโอกาสลงเรือลำเดียวกันในปีนี้ จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรค และนำพากลุ่มของตนเองให้ประสบความสำเร็จได้ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ และสามารถนำประสบการณ์ที่ทุกคนได้รับ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง สังคมและประเทศชาติต่อไป” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย.