PPM โชว์กำไรไตรมาส 3/57 โต 65.39% บอร์ดไฟเขียวตั้งบริษัทย่อย “โซลาร์ พีพีเอ็ม” ลุยพลังงานทดแทน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 17, 2014 12:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ.พรพรหมเม็ททอล หรือ PPM เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2557 กำไรเบ็ดเสร็จ 11.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.39% ส่งผลยอดขายแตะ 334.39 ล้านบาท หลังเน้นบุกตลาดขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ด้านผู้บริหาร “ชำนาญ พรพิไลลักษณ์” ระบุที่คณะกรรมการมีมติไฟเขียวตั้งบริษัทย่อย “โซลาร์ พีพีเอ็ม” ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ลุยธุรกิจพลังงานทางเลือก หวังปั้นรายได้เพิ่มในอนาคต นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมและวัสดุเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง เปิดเผยถึงผลการดำเนินประจำงวดไตรมาส 3/2557 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 ว่า บริษัทฯ มีกำไรเบ็ดเสร็จจำนวน 11.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 65.39% ที่มีกำไรเบ็ดเสร็จ 7.21 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ เน้นการขายสินค้าที่สามารถทำกำไรได้ดี แต่ยอดขายสุทธิไตรมาส 3/2557 อยู่ที่ระดับ 334.39 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,035.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ระดับ 29.14 ล้านบาท นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “บริษัทโซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 100% ในบริษัทดังกล่าว ซึ่งบริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด จะดำเนินธุรกิจโดยเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้พลังงานทางเลือกอื่นที่นอกเหนือจากพลังงานสิ้นเปลือง (น้ำมัน ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ) เช่น การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กังหันลม แกลบ เศษไม้ ขยะ หรือการใช้ก๊าซชีวมวลจากการหมักน้ำเสียจากโรงงาน “การที่ PPM จัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด โดยถือหุ้น 100% นั้นก็เพื่อขยายธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจพลังงานทางเลือกเป็นธุรกิจที่ยังมีดีมานด์ความต้องการใช้ตามอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้น โดยส่วนตัวมองว่า การที่เราขยายธุรกิจมาด้านนี้ เราเดินมาถูกทางแล้ว” นายชำนาญกล่าว ส่วนอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ นายชำนาญ กล่าวว่า บริษัทได้ปรับลดประมาณการรายได้ลงจาก 2,000 ล้านบาท เป็น 1,300 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ