กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- สัปดาห์นี้ประเด็นที่ต้องติดตามคือการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
- แนวต้านถัดไป 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำในช่วงการซื้อขายกลางวันของวันนี้มีแรงเทขายออกมาบ้าง หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับขึ้นแรงตามราคาน้ำมัน แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวเหนือ 1,180 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับการเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นช่วงเช้าวันนี้ไม่ค่อยมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำ แต่ทำให้มีแรงเทขายหุ้นและเข้าลงทุนในทองคำบางส่วน โดยเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน จีดีพีไตรมาส 3 หดตัวลง 1.6% เมื่อเทียบกับรายปีและหดตัว 0.4% เมื่อเทียบกับรายไตรมาส หลังจากหดตัวลงรุนแรง 1.9% ในไตรมาส 2 ซึ่งได้ตอกย้ำมุมมองที่ว่านายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มรอบ 2 ที่กำหนดไว้ในปีหน้าออกไป
สัปดาห์นี้ประเด็นที่ต้องติดตามคือการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐและตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ สำหรับการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดวันที่ 28-29 ต.ค.ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่เฟดตัดสินใจยุติมาตรการ QE ถึงแม้ว่าเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่เฟดยุติมาตรการ QE ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง
หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในวันศุกร์จนสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,180 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นไปสู่แนวต้านที่ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะนำนักลงทุนเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำปรับฐานลงมาที่บริเวณที่แนวรับ 1,170 และ 1,160 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนทันทีที่ราคาทองคำปรับลงต่ำกว่า 1,145 ดอลลาร์/ออนซ์