สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 19, 2014 10:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,186 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,194เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.76 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,300 บาท กับ 18,400บาท และกลับมาปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,391 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 8,058 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.4 % แบบ10 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลง ) GFZ14 ปิด 18,670 บาท และ GFG14 ปิด 18,710 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,660 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,720 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,197.1 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.03 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 74.61 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 723.01 ตัน ( เท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ -เมื่อคืนนี้ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้น 1.15% ปิดระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และใกล้แตะระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2013 -นักวิเคราะห์จาก MKS ระบุว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหลักต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำขณะนี้ โดยแนวรับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,180 เหรียญ ขณะที่แนวต้านสำคัญด้านบนของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ และ 1,210 เหรียญตามลำดับ -นักวิเคราะห์จากคิทโก ระบุว่า ทองคำได้รับแรงหนุนจากการส่งออกทองคำของอินเดียที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปีในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ทองคำอาจได้รับแรงกดดันหลังจาก รัฐบาลอินเดียมีแนวโน้มจะประกาศมาตรการควบคุมการนำเข้าทองคำครั้งที่ 2 ในวันนี้ โดยอาจมีการระงับการนำเข้าทองคำจากกลุ่มผู้ประกอบการรายบุคคล -ธนาคารกลางรัสเซียมีการสำรองทองคำเพิ่มประมาณ 150 ตัน โดยได้รับการเห็นชอบจากสภาล่างเมื่อวานนี้ -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2535 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2453 ยูโร/ดอลลาร์ ถึงแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเป็นไปในเชิงบวก ขณะที่เทียบกับเงินเยน พบว่าเยนยังคงอ่อนค่าเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ระดับ 116.89 เยน/ดอลลาร์ จาก 116.48 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินเยนปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาพผู้แทนราษฎรในวันที่ 21 พ.ย.นี้ เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดประมาณวันที่ 14 ธ.ค.นี้ รวมถึงประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคออกไปอีกเป็นเวลา 18 เดือน (เมษายน 2017) หลังจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ 3 -เมื่อคืนนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% จากเดิม 0.1% เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาการบริการและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงสกัดกั้นปัจจัยลบจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง -ทางด้านดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับสองในปี 2005 ทั้งนี้ยอดขายบ้านได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น -เมื่อวานนี้ ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและนักวิเคราะห์ของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 11.5 จากระดับ -3.6 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2013 จึงส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีอาจเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง -ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและนักวิเคราะห์ของยูโรโซนประจำเดือนพฤศจิกายนก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 11.0 จากระดับ 4.1 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจยูโรโซนที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ภาพรวมยังคงมีความเปราะบางและไม่แน่นอน จากความตึงเครียดทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ -อัตราเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคมของอังกฤษ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 1.3% จากเดิม 1.2% ในเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากราคาด้านการขนส่งที่ปรับตัวลง และต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส -ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง เพราะได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่าโอเปคอาจไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้ รวมถึงแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ชะลอตัวลง -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.23% โดยเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเลื่อนปรับขึ้นภาษีการบริโภคของนายชินโซ อาเบะ ออกไปเป็นระยะเวลา 18 เดือน -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 32.70-32.92 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดค่อนข้างนิ่ง ขณะที่แรงซื้อขายที่ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดไม่ค่อยขยับไปไหน ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน - PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.2% - Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.4% ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.02 m ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.04 m - Housing Starts 1.02 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.03 M - FOMC Meeting Minutes ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบทิศทางขาขึ้น โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนออกมาค่อนข้างดี อันได้แก่ PPI ที่ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 0.2% จากระดับ -0.1% และ Core PPI ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 0.4% จากระดับ 0.3% อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์เองยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรสู่ระดับ 1.2524 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2453 ยูโร/ดอลลาร์ โดยมองว่าปัจจัยพื้นฐานของทองคำเริ่มมีความสัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์มากขึ้น โดยดูแล้วมีโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอยู่บ้าง สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอเมริกาคืนนี้ ได้แก่ ตัวเลขของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะดีขึ้นเช่นกัน คือ Building Permits และ Housing Starts ขณะที่เมื่อวานนี้ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 723.01 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคระยะสั้นราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น โดย Oscillator เริ่มทรงตัวใกล้เส้นศูนย์ รอเพียงกราฟรายวัน ซึ่งยังมี Oscillator ที่มีเส้นค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเส้นศูนย์เท่านั้น จึงวิเคราะห์ว่าในระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้นโดยที่ราคาทองคำยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป ซึ่งแนวต้านด้านบนที่สำคัญของทองคำอยู่ที่ระดับ 1,210 เหรียญ และแนวรับด้านล่าง 1,180 เหรียญ ขณะที่เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่อาจจะทรงตัวหรืออ่อนค่าบริเวณ 32.75-32.85 บาท/ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ บริหารพอร์ตให้รับสภาวะกับราคาทองคำที่อาจจะยังขึ้นต่อได้ โดยเป้าหมายสำคัญที่ราคาทองคำอาจจะขึ้นไปทดสอบอยู่ที่บริเวณ 1,240 เหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญที่สุดได้ - นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำทำกำไรระยะสั้น ตามสภาพการแกว่งของตลาด - นักลงทุนที่ถือ Short Position ลดสถานะ Short หรือทำ Stop Loss ออกไป กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ภาพหลักของทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลง อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรบริหารพอร์ตให้สมดุล มิเช่นนั้นอาจถูก Call Margin หากถือสถานะ Short Position มากเกินไป Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,770 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,800 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. พบบูธ MTS Gold และโปรโมชั่นแรง X6 ภายในงาน “SET in the City 2014” ในวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา). 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ