สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 21, 2014 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,182 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,190เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,300บาท กับ 18,400บาท และกลับมาปิดที่ 18,450 บาท กับ 18,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 918 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 5,976 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.94 % แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 3.63% GFZ14 ปิด 18,600 บาท และ GFG14 ปิด 18,650 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,620 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,680 บาท สัญญา Comex ลดลง 3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,190.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 75.58 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 720.91 ตัน ( คงทองเท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ -นักวิเคราะห์จากคิทโก ระบุว่า ราคาทองคำปิดปรับตัวลงสู่ระดับ 1,190.9 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากที่ดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,197 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไร -อย่างไรก็ดี การที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.1% ในเดือนก่อนหน้า รวมถึงแรงหนุนจากปริมาณการเข้าซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ซื้อในเอเชีย หลังจากที่ราคาร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,175 เหรียญ/ออนซ์ -ขณะที่ตลาดทองคำไม่ได้ให้ความสนใจกับผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งเท่าที่ควร อันได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง และการปรับตัวลดลงของคนว่างงาน -นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส ระบุว่า นักลงทุนทองคำยังคงให้ความสนใจไปยังข้อมูลภาคแรงงานของสหรัฐฯ รวมถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งหากข้อมูลบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเพิ่มขึ้น อาจสนับสนุนให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า -นายจิม เวคคอฟ จากคิทโก กล่าวว่า หากทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,225 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง จะช่วยสนับสนุนภาพของทองคในทิศทางขาขึ้น ขณะที่ภาพหลักของทองคำ ณ ขณะนี้ยังคงเป็นแนวโน้มขาลง และคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,180 – 1,200 เหรียญ ซึ่งแนวรับสำคัญที่แข็งแกร่งทางเทคนิคจะอยู่ที่บริเวณ 1,160 เหรียญ -รายงานจากสวิสฯ แสดงให้เห็นว่า การนำเข้าทองคำของจีนจากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3 เท่าสู่ระดับ 42.5 ตันในเดือนก่อนหน้า -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2551 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2544 ยูโร/ดอลลาร์ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวมอยู่ในเชิงบวก แต่ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 117.95 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.88 เยน/ดอลลาร์ -อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ที่ระดับ 118.22 เยน/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสข่าวที่ว่าบีโอเจอาจดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาอยู่ในสภาวะฟื้นตัวอีกครั้ง -เมื่อคืนนี้ ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 1.5% (80,000 ยูนิต) สู่ระดับ 5.26 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2013 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดขายบ้านมือสองฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง -ขณะที่ดัชนีภาคการผลิต (Flash Manufacturing PMI) ประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 54.7 จากเดิม 55.9 ในเดือนก่อนหน้า แต่ภาคการผลิตในเขตฟิลาเดเฟีย ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งสู่ระดับ 40.8 จากระดับ 20.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2011 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัวได้ในเกณฑ์ที่ดี -ดัชนี CPI พื้นฐานของสหรัฐฯประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 5 เดือน -จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 2,000 ราย สู่ระดับ 291,000 ราย ซึ่งยังเป็นระดับที่ดีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายมากว่า 10 สัปดาห์แล้ว ทั้งนี้ข้อมูลตลาดแรงงานก็ยังคงบ่งชี้ถึงทิศทางการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง -สถาบันมาร์กิต เผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (PMI) เบื้องต้นประจำเดือนพฤศจิกายนของยูโรโซนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 51.4 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แสดงให้เห็นว่ายูโรโซนอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเร็วๆนี้ -ขณะที่ภาคการผลิตของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน พบว่าปรับตัวลดลงแตะระดับ 52.1 จาก 53.9 ในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ให้เห็นว่า ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยูโรโซนยังคงมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง -ขณะที่ HSBC เผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (PMI) เบื้องต้นประจำเดือนพฤศจิกายนของจีน ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเช่นกัน ส่งสัญญาณให้เห็นว่าภาคการผลิตของจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดัน -นักเศรษฐศาสตร์จาก มิซูโอะ ซิเคียวริตี้ กล่าวว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นสู่อียูฟื้นตัวขึ้น หลังจากค่าเงินอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังจากที่เศรษฐกิจของยุโรปปรับตัวลดลงต่ำสุดในปี 2011 อย่างไรก็ดี ปริมาณความต้องการภายในประเทศของญี่ปุ่นยังคงปรับตัวลดลงโดยจะเห็นได้จากยอดงบดุลของประเทศ แม้ว่าอียูจะค่อยๆมีการฟื้นตัวก็ตาม -ยอดค้าปลีกประจำเดือนตุลาคมของอังกฤษ ปรับตัวสูงขึ้น 0.8% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายสินค้าครัวเรือนและการใช้จ่ายด้านการบริโภคที่สูงขึ้น -ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากกระแสข่าวที่ว่า กลุ่มโอเปกจะปรับลดเพดานการผลิตในการประชุม 27 พ.ย.นี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ความต้องการน้ำมันที่ลดน้อยลง และข่าวที่ว่าลิเบียเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันได้อีกครั้ง -สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า สหรัฐฯมีแผนเพิ่มกำลังสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน ประกอบไปด้วย การจัดส่งยานพาหนะHumvee รวมถึงอาวุธหนักเพื่อต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียย -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.19% และปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 17,719 จุด หลังจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.90 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด และค่อนข้างเหวี่ยงตามค่าเงินภูมิภาค -รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย เปิดเผยว่า จะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม ครม.ในเดือนมกราคม 2558 เพื่อช่วยลดภาระงบประมาณของประเทศที่จะต้องนำเงินสนับสนุนแก่ท้องถิ่น เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น และจะทำให้รัฐบาลสามารถนำงบกลางที่เหลือไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้มากขึ้น -ขณะที่เศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีจะยังคงเติบโตได้ไม่สูงมากนัก เนื่องจากภาคการส่งออกของไทยไม่ได้ฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่คาดหวังไว้ เนื่องจากตั้งแต่เดือน ก.ค. – ต.ค. 57 การส่งออกยังคงชะลอตัว แต่หากการท่องเที่ยวและการบริการเริ่มกลับสู่ช่วง ไฮซีซั่นอาจช่วยหนุนการเติบโตได้บ้าง -ธปท. เผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้อาจจะเติบโตได้ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ ธปท.เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.5% และอาจอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่สภาพัฒน์ประเมินไว้ที่ระดับ 1% แต่จะมีการทบทวนตัวเลขอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ -รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ทั่วโลก เร่งผลักดันการส่งออกของไทยให้เป็นรูปธรรมภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 โดยตั้งเป้าหมายเบื้องต้น คือ การขยายตัวสำหรับปี 2558 ที่ระดับ 4% จากปีนี้ โดยมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นไปได้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน - CPI m/m ตัวลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.0% - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1 % ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.2% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 293K ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 291K - Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 55.9 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 54.7 - Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 20.7 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ40.8 - Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.18 M ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 5.26M ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทิศทางราคาทองคำราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,190 เหรียญอีกครั้ง โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาค่อนข้างดี แต่การที่ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อในฝั่งเอเชียหลังจากที่ราคาปรับตัวลดลง ในวันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 720.91 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิค ระยะสั้นราคาทองคำยังคงมีการแกว่งตัวผันผวน และยังหา Direction ไม่ได้ชัดเจน โดยมีการแกว่งตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีระยะยาวยังเป็นขาลง ซึ่งหากราคาจะกลับเป็นขาขึ้นได้ต้องยืนเหนือ 1,240 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ คำแนะนำเล่นอย่างระมัดระวัง และปรับพอร์ตให้สมดุลกับสภาพความผันผวนของตลาด โดยคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,170 – 1,200 เหรียญ - นักลงทุนที่ถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ เข้า-ออกเร็ว และปรับพอร์ตให้สมดุลกับสภาพความผันผวนของตลาด กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ภาพระยะสั้นตลาดยังคงมีการแกว่งตัวผันผวนอย่างรุนแรง แนะนำให้ทำการปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาพตลาด ขณะที่ภาพหลักของทองคำยังคงเป็นทิศทางขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,700 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,750 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. พบบูธ MTS Gold และโปรโมชั่นแรง X6 ภายในงาน “SET in the City 2014” ในวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา). 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ