สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 24, 2014 10:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,192 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,204เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,450บาท กับ 18,550บาท และกลับมาปิดที่ 18,400 บาท กับ 18,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,067 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 5,816 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.58 % แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 7.34% GFZ14 ปิด 18,760 บาท และ GFG14 ปิด 18,840 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,770 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,840 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 6.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,197.7 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 76.51 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 720.91 ตัน ( คงทองเท่าเดิม) ข่าวที่สำคัญ -ในคืนวันศุกร์ทองคำปรับตัวสูงขึ้นและสามารถยืนเหนือ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ และสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 1,207 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากแรงเข้าซื้อของกลุ่มนักลงทุน รวมถึงการทำ Short Covering หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่อีซีบีพร้อมสนับสนุนการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ -จากการประกาศลดดอกเบี้ยของจีน ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ปริมาณความต้องการทองคำจากกลุ่มผู้บริโภคในจีนอาจเพิ่มสูงขึ้นด้วย -นักวิเคราะห์จาก โจนาธาน บัทเลอร์ กล่าวว่า มาตรการใดๆก็ตามที่ช่วยเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของจีนมักส่งผลเชิงบวกและผลักดันให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้น และอาจทำให้กลุ่มผู้บริโภคในจีนกลับมาเข้าซื้อทองรูปพรรณ รวมทั้งลงทุนในสินค้าประเภททองคำมากขึ้น -สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า กลุ่มเฮดฟันด์มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะได้รับแรงหนุนจากการดำเนินการของธนาคารกลางต่างๆทั้งจีน ญี่ปุ่น และยุโรป จึงผลักดันให้ทองคำกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง -ข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า ปริมาณการถือครองสถานะ Long Position สุทธิ ในตลาดนิวยอร์กเพิ่มสูงขึ้นกว่า 56% หรือ 21,634 คู่สัญญา สู่ระดับ 60,307 คู่สัญญาณ -นาย อัฟชิน นาวาบี นักวิเคราะห์จาก MKS กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันทองคำในทิศทางขาลง ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น แต่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร จึงมีโอกาสที่เราจะเห็นการตกลงของราคาทองคำอีกครั้ง -นักวิเคราะห์จาก Kitco กล่าวว่า ในวันนี้สัญญา Gold Option ประจำเดือนธันวาคมในตลาด COMEX จะหมดอายุลง อาจทำให้ทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความผันผวน และอาจบอกเป็นนัยถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ -นาย โรบิน บาร์ นักวิเคราะห์จากโซซีเอต เจเนอรัล กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ตลาดอาจเงียบเหงาเนื่องจากตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving จึงอาจทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดชะลอตัวลงระหว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ และอาจส่งผลไปยังสัปดาห์หน้าอีกด้วย -รายงานจาก IMF ระบุว่า ยูเครนได้ทำการลดการสำรองทองคำเป็นครั้งที่ 3 ในเดือนตุลาคม โดยลดลง 14 ตัน จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่รัสเซียเพิ่มการสำรองทองคำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 โดยในเดือนตุลาคมเพิ่มการถือครอง 18.9 ตัน ปัจจุบันมีการถือครองทองคำทั้งสิ้น 1,168 ตัน -ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2388 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2551 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากอีซีบีจะยังคงเดินหน้าขยายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ -ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ปรับตัวสูงขึ้น 0.82% สู่ระดับ 88.313 ในคืนวันศุกร์ และไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 88.424 ก่อนจะทรงตัวบริเวณ 88.33 ในเช้าวันนี้ -อย่างไรก็ดี ค่าเงินยูโรยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานอีซีบี ซึ่งกดดันให้ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.2% สู่ระดับ 1.2388 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ -นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ระบุว่า อีซีบีพร้อมใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อผลักดันอัตราเงินเฟ้อและให้อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ปรับตัวสูงขึ้นให้เร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งอาจมีการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์หากจำเป็น -เจ้าหน้าที่ของอียู เปิดเผยว่า อียูกำลังเตรียมแผนกองทุนสำรองเป็นจำนวน 2.1 พันล้านยูโร (2.6 พันล้านดอลลาร์) เพื่อจัดสรรความเสี่ยงสำหรับโครงการใหม่ๆในกลุ่มนักลงทุนรายบุคคล -ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวสูงขึ้น 1.3% และปิดที่ระดับสูงสุด 80.36 ดอลลาร์/บาร์เรล นับตั้งแต่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพราะได้รับแรงสนับสนุนหลังจากธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อายุหนึ่งปีของสถาบันลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% จึงส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังว่า ความต้องการน้ำมันจากจีนจะเพิ่มสูงขึ้น -แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า ในการประชุม 27 พฤศจิกายนนี้ โอเปคอาจปรับลดเป้าหมายการผลิตลงไม่เกิน 500,000 บาร์เรล/วัน โดยชี้ว่าหลายประเทศ เช่น ซาอุดิอาระเบีย อาจพอใจกับราคาน้ำมันที่ลดลง เพื่อที่จะได้แข่งขันกับการลงทุนในหินน้ำมันในอเมริกาเหนือ -สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า สหรัฐฯ เตรียมแผนการเข้าซื้ออาวุธหนักในวงเงิน 24.1 ล้านดอลลาร์ โดยมีแผนจะช่วยเหลือกองกำลังนิกายสุหนี่ของอิรัก โดยการซื้ออาวุธที่ประกอบไปด้วย AK-47s, จรวดขับเคลื่อนขนาดเล็ก และเครื่องยิงระเบิดเล็ก เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย IS ในจังหวัดอันบาร์ของอิรัก -รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนี แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่รัสเซียแทรกแซงและสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน เพื่อให้เกิดความแตกแยกในตะวันออกกลางของยูเครน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัสเซียความต้องการทำลายความเป็นเอกภาพของยูเครน -ขณะที่ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย พยายามสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งด้วยการผูกมิตรทางทหารกับปากีสถาน หลังจากอินเดียทำการเข้าซื้ออาวุธจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น -ในคืนวันศุกร์ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.51% โดยยังคงเดินหน้าทำสถิติปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดี ตลอดสัปดาห์ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 1.0% -วันนี้ตลาดหุ้นและตลาดการเงินของญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณแรงงาน (Labor Thanksgiving) -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว ซึ่งต้องจับตาแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงใกล้สิ้นเดือนของกลุ่มผู้นำเข้า ตัวเลขการส่งออกของไทย และการเคลื่อนไหวของตลาดหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนวันศุกร์ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทิศทางราคาทองคำ สภาพตลาดทองคำยังคงมีความผันผวนเป็นรายวัน และมีแรงซื้อทุกครั้งที่ราคาปรับตัวลดลงบริเวณ 1,190 เหรียญ ทั้งๆที่ค่าเงินดอลลาร์เองยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและค่าเงินเยน โดยค่าเงินยูโรเริ่มทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 ปี ที่ระดับ 1.2385 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 720.91 ตัน แม้จะมีกระแสข่าวว่า รัสเซียซื้อทองคำเพิ่ม แต่ยูเครนก็ลดการถือครองทองคำลง ภาพโดยรวมจึงจะเห็นความผันผวนของราคาทองคำบริเวณ 1,190 – 1,210 เหรียญ โดยที่ให้จับตาไปยังการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ทั้งนี้หากค่าเงินยูโรเองและหลุด 1.2350 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญและเป็นจุดต่ำสุดเดิมในช่วงปีครึ่ง หากหลุดลงมาก็จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงต่อได้ ก็ต้องจับตาดูอีกครั้งหนึ่ง วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำในระยะสั้นมีความผันผวนในทิศทางขาขึ้น โดยจะเห็นได้จากกราฟระยะสั้น 4-8 ชั่วโมง และบ่อยครั้งใน Oscillator มีภาวะ Divergence แต่ก็มีแรงซื้อกลับทุกครั้ง ซึ่งในเชิงเทคนิคระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง โดยทองคำมีแนวต้านบริเวณ 1,210 เหรียญซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน โดยหากทะลุขึ้นไปจะมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,236 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน ทองคำจะเป็นขาขึ้นโดยสมบูรณ์ต้องยืนเหนือ 1,220 เหรียญ สำหรับช่วงนี้เป็นความผันผวนในระยะสั้นๆ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำให้เฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยแนะนำให้ลงทุนใน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) ลดสถานะลงแล้วรออยู่นอกตลาด หรือไม่ได้ทำอะไรเลย และ 2) เล่นตามสภาวะการแกว่ง ทำกำไรระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position ทำกำไรเป็นรอบๆ ระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Short Position บริหารพอร์ตให้ดี ระวังถูก Call Margin ไม่แนะนำให้ทำสถานะ Short Position เพิ่ม รอดูจังหวะก่อน กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading Wait & See บริหารพอร์ตสมดุลตามสภาพตลาด เนื่องจากระยะสั้นตลาดมีความผันผวน ขณะที่ระยะยาวยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,640 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,840 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,920 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา). 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ