สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 27, 2014 10:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,199 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,197เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.77 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 566 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 4,823 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.5% แบบ10 บาท ลดลง 6.2% GFZ14 ปิด 18,700 บาท และ GFG14 ปิด 18,760 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,720 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,790 บาท สัญญา Comex ลดลง 0.30 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,197.5 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 0.40 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 718.82 ตัน (ขายออก 2.09 ตัน) ข่าวที่สำคัญ -เมื่อวานนี้ ทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ โดยเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยตลาดไม่ได้ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐฯ ขณะที่แรงซื้อจากตลาดเอเชียลดน้อยลง รวมถึงปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำชะลอตัวลงก่อนเข้าสู่วันหยุดของสหรัฐฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) -อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่ตลาดทองคำให้ความสำคัญ คือการลงประชามติเรื่องการถือครองทองคำของสวิสเซอร์แลนด์ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ -เมื่อวานนี้ SPDR กลับมาลดการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ โดยขายออก 2.09 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 718.82 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 กันยายน 2008 -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2514 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2470 ยูโร/ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่อ่อนแรงลงกว่าที่คาดการณ์ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเริ่มชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2014 ขณะที่ค่าเงินเยนเริ่มแข็งค่าสู่ระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.94 เยน/ดอลลาร์ -ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น 0.4% เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้อของอากาศยานทางทหารที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง -ตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Spending) ประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวขึ้น 0.2% จากเดิม 0.0% ซึ่งการบริโภคส่วนบุคคลจะคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยในระยะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ภาคครัวเรือนจะมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง -อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายของชาวอเมริกันจะเพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนัก และการจ้างงานในสหรัฐฯส่งสัญญาณดีขึ้น -จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 313,000 ราย ซึ่งเป็นการแตะระดับ 300,000 รายเป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์ -ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.8 เพราะได้รับแรงกดดันจากยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่ปรับตัวลดลง -ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯประจำเดือนพฤศจิกายนของรอยเตอร์สและมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่าปรับตัวลง 88.8 จากเดิม 89.4 หลังจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มไม่มั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจ -ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.7% สู่ระดับ 458,000 ยูนิต ขณะที่ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ปรับตัวลง 1.1% แตะระดับ 104.1 บ่งชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯมีความฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง -ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า ภาพรวมยอดขายบ้านใหม่ในปีนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังอยู่ในระดับต่ำ และตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ความต้องการบ้านใหม่สูงขึ้น แต่ปรากฏว่าในช่วง 10 เดือนของปีนี้ ยอดบ้านใหม่ขยายตัวเพียง 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว -นายวิเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานอีซีบี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีจะพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติม หากมาตรการทางการเงินในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจยูโรโซน โดยคาดว่า อีซีบีจะเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล (QE) ในช่วงต้นเดือน 2015 -นักวิเคราะห์ ระบุว่า ถ้อยแถลงของรองประธานอีซีบีที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับประธานอีซีบี เพื่อดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย เราจึงอาจเห็นอีซีบีประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ทั้งนี้ต้องจับตาไปยังการประชุมอีซีบีที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ -คณะกรรมาธิการอียู เสนอแผนการลงทุนมูลค่า 3.15 แสนล้านยูโร (3.8 แสนล้านดอลลาร์ฯ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซน ซึ่งอียูจะเปิดเผยแผนการลงทุนดังกล่าวในการประชุม 18-19 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว -ผลสำรวจความคิดเห็นบริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช พบว่า กลุ่มบริษัทญี่ปุ่นกว่า 48.4% ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของค่าเงินเยน หลังได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาสำหรับการนำเข้าสินค้าและราคาเชื้อเพลิงบางประเภท -นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาการประชุมของโอเปคที่จะเริ่มต้นในวันนี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อติดตามว่าโอเปคจะทำการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสู -ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ประจำปี 2014 จะอยู่ที่ระดับ 7.7-8.1% จากคาดการณ์เดิม 3.5-5.5% ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงในประเทศ งขึ้น -สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า HSBC และ Goldman Sachs ถูกยื่นฟ้องร้องในข้อหาวางแผนปั่นราคาสินค้าอย่างลับๆ ได้แก่ ทองคำ แพลทินัม และพาเลเดียม -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.07% และกลับมาปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 17,827.75 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านบวกของสหรัฐฯ -เช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด -0.34% เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง จึงกดดันหุ้นในกลุ่มบริษัทพลังงาน -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคมีการเคลื่อนไหวผันผวน -รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ยอดส่งออกในเดือนตุลาคมมีมูลค่าทั้งสิ้น 20,163.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสู่ระดับ 3.97% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวที่ดีขึ้นของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีรายได้ดีขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 20,132 ล้านดอลลาร์ หรือลดลง 4.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้เดือนตุลาคมนี้ ไทยมียอดเกินดุลการค้า 31.5 ล้านดอลลาร์ -ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ น่าจะทำการส่งออกได้ประมาณเดือนละ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะทำให้ภาพรวมการส่งออกตลอดปี 2557 ขยายตัวได้ประมาณ 0.05% โดยไม่มียอดติดลบหากยอดส่งออก 2 เดือนสุดท้ายเป็นไปตามคาด ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ - Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -0.9% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 292K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 313K - Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.2% - Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.1%ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.4% - Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ0.2% - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 66.2 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.8 - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 89.4 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ88.8 - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 455K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 458K - Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.6%ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.1% ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเนื่องจาก ตลาด Comex ปิดเนื่องในวัน Thanksgiving Day ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยไม่ค่อยตอบรับกับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ แม้ว่าตัวเลขสหรัฐฯส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีนัก โดยเฉพาะอัตราคนว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น 313,000 ราย สำหรับวันนี้เป็นวันหยุด Thanksgiving จึงไม่มีตลาด COMEX ดังนั้น MTS Gold จะปิดทำการระบบ Gold Online และ Gold Phone ในช่วงเวลา 22.00น. ขณะที่เมื่อวานนี้ SPDR เมื่อวานนี้เทขายทองคำ 2.09 ตัน ปัจจุบันคงทอง 718.82 ตัน ขณะที่ภาพรวมตลาดดูจะรอคอยผลการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ว่าจะให้ธนาคารกลางสวิสฯเพิ่มการสำรองทองคำ 20% วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำระยะสั้นเคลื่อนตัว Sideways เป็นเวลามากว่า 4 วัน ในกรอบ 1,190-1,205 เหรียญ ซึ่งวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบที่ระดับ 1,195 – 1,205 เหรียญเท่านั้น โดยที่ตลาด COMEX หยุดทำการ อย่างไรก็ดีระยะกลางกับระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง เนื่องจากราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 1,210 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 32.77-32.82 บาท/ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวน้อย จึงอาจจะทำอะไรได้ค่อนข้างยาก - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position ปรับ Portfolio ให้สมดุลกับสภาพตลาดต่อไป ไม่ทำการ Leverage มากนัก กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading แนวโน้มขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,590 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,760 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,860 บาท ประชาสัมพันธ์: 1. เนื่องในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 เป็นวันหยุดต่างประเทศเนื่องในวัน Thanksgiving Dayโดยตลาดนิวยอร์กจะปิดทำการ ดังนั้นทางระบบ Gold Online และระบบ Gold Phone จะเปิดทำการตั้งแต่ 09.00น. – 22.00น. โดยระบบ P/O Real Time จะมีผลแค่ช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการเท่านั้น และระบบจะเปิดทำการอีกครั้งในช่วงเวลา 08.30น. ของเช้าวันศุกร์ที่ 28พฤศจิกายน 2557 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: 02-770-7777 หรือ 02-770-7788 2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 3) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 3. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 4. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ