กลุ่มมหพันธ์ เติบโตอย่างมั่นคง ครองผู้นำนวัตกรรมไฟเบอร์ซีเมนต์ครบวงจรรายแรกของไทย ทุ่มงบ 200 ล้านบาท พร้อมโชว์ศักยภาพส่ง 4 นวัตกรรมล่าสุดบุกตลาด รับกำลังซื้อเพิ่ม มั่นใจสิ้นปี 2558 ยอดขายเพิ่มขึ้น 15% โกยรายได้ 5,500 ล้านบาท

ข่าวอสังหา Thursday November 27, 2014 14:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส กลุ่มมหพันธ์ ผู้นำไฟเบอร์ซีเมนต์ ตรา เฌอร่า รองรับกำลังซื้อเพิ่ม ทุ่มงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท เปิดตัว 4 สุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ชูจุดเด่น เน้นดีไซน์ ติดตั้งง่าย สวย ทน นาน ตลอดอายุการใช้งาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด สร้างง่าย อยู่สบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่รักสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งเป้าสิ้นปี 2558 โตเพิ่มขึ้น 15% โกยรายได้ 5,500 ล้านบาท นางนิลุบล จิราพัฒนพงศ์ รองผู้อำนวยการบริหารการตลาด กลุ่มมหพันธ์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่บริษัทประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์นั้น ทางบริษัทมีปณิธานในการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีและทีมงานที่มีประสิทธิภาพ กลุ่มมหพันธ์สามารถขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ครอบคลุมวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรเป็นรายแรกในประเทศไทย ทั้งหลังคา ฝ้า เพดาน ผนัง งานพื้นรวมถึงงานตกแต่ง ด้วยกำลังการผลิต 1.5 ล้านตันต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้อรรถประโยชน์สูงสุดจากการใช้สินค้า สำหรับสินค้าใหม่ปลายปี 2557 เพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2558 นี้ทาง เฌอร่า พร้อมเปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดสู่ตลาด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ซึ่งได้แก่ วงกบประตู ตอบโจทย์คนรักบ้านยุคใหม่ ทันสมัยด้วยดีไซต์ควบคู่คุณภาพตลอดอายุการใช้งาน แข็งแรงรับน้ำหนักได้มาก มาพร้อมร่องบานพับและประตูเจาะลูกบิด จุดเด่นคือ ติดตั้งง่าย มีมาตรฐาน ลดปัญหาต่างๆหน้างาน ด้วยเทคโนโลยีการประกอบแบบ น๊อคดาวน์ ต่อด้วย ไม้เชิงชายโปร เนรมิตขอบหลังคาบ้านให้เนียนไร้ที่ติหลากหลายแบบ มีแนวร่องไม้เด่นชัดโชว์ความสวยงาม น้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรง ทนปลวก ทนไฟ ไม่บิดงอ ขนาดหน้าไม้กวางขึ้นพร้อมทาสีสวยงาม ลดขั้นตอนการติดตั้งจาก 3 เหลือขั้นตอนเดียว ประหยัดเงินและเวลาดำเนินงาน ส่วน ไม้บัวลามิเนต ทางเลือกที่ดีกว่าของการปกปิดรอยต่อระหว่างพื้นและผนัง เป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศไทยที่วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีลามิเนตแผ่นปิดผิวลายไม้บนผิวไฟเบอร์ซีเมนต์ได้เป็นผลสำเร็จ โดยใช้กาวไร้สารพิษชนิดพิเศษช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ ผสานระหว่างแผ่นปิดผิวลายไม้กับไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ได้อย่างทนทาน โดยไม่ลอกร่อนแม้มีความชื้นสูงและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย ปิดท้ายด้วยไฮไลน์สำคัญคือ ไม้พื้นรุ่นคัลเลอร์ทรู (สีในเนื้อ) สร้างประสบการณ์การใช้ไม้พื้นรูปแบบใหม่ เป็นรายแรกและรายเดียวที่ผสานเทคโนโลยีการผสมเม็ดสีในเนื้อไฟเบอร์ซีเมนต์ ทนทาน ดูแลรักษาง่ายกว่า ไม้ธรรมชาติทั่วไป พร้อมทั้งประหยัดงบประมาณไปถึง 50% ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร เพิ่มมิติและความเป็นธรรมชาติจากภายในสู่ภายนอก เติมเต็มความสวยงามและทัศนียภาพให้บ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้านกลยุทธ์การตลาดแบ่งเป็นในประเทศไทยจะเน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบครบวงจร ทั้งการสื่อสารผ่านอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ โดยสร้างการรับรู้ผ่านโฆษณาทาง โทรทัศน์ วิทยุ วีทีอาร์ผ่านจอ แอลอีดี และ บิลบอร์ด ใจกลางเมืองทั้งในกรุงเทพ ต่างจังหวัด หนังสือพิมพ์ และนิตยสารต่างๆ รวมถึงการสร้างโปรดักส์ดิสเพลย์และสื่อโฆษณา ณ จุดขายตามร้านค้าวัสดุตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 6,000 ร้านค้า และร้านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์จริง รับรู้ถึงการติดตั้งและการใช้งานอย่างถูกวิธี นอกจากนี้แล้วเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล ทาง เฌอร่า จะเปิดตัว SHERA application นำเสนอข้อมูลต่างๆในมุมมองที่น่าสนใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ทุกกลุ่มเป้าหมายในการสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงการทำประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งปีทั่วประเทศ โดยแผนการตลาดในประเทศไทยทั้งหมดใช้งบประมาณรวมกว่า 200 ล้านบาท และตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2558 จะโตขึ้น 15% กวาดรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 5,500 ล้านบาท ส่วนในต่างประเทศ เฌอร่า มีแผนรุกตลาด ส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และ ยุโรป สำหรับการเปิดตลาด “เออีซี” นับเป็นปัจจัยบวกต่อ แบรนด์ เฌอร่า เนื่องจากคาดว่าจะมีการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อความต้องการขยายตัวของบ้าน โครงการที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า โรงแรม เพิ่มมากขึ้น และจากสภาวะวิกฤตของป่าไม้ในปัจจุบัน ทำให้ทั่วโลกหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นางนิลุบล จิราพัฒนพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ เฌอร่า ครองสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ 40% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2558 จะเติบโตขึ้นอีก 10% จากการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ ถือเป็นปีทองที่แต่ละแบรนด์จะช่วงชิงตลาด โดยขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันนอกจากการเลือกวัสดุที่คุ้มค่า ทนทาน มีดีไซน์ทันสมัยแล้ว ยังคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพ รวมถึงใส่ใจผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งวัสดุแบรนด์ เฌอร่า สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
แท็ก นวัตกรรม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ