สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 28, 2014 10:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,196 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,193เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 895 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 6,089 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3.1% แบบ 10 บาท ลดลง 2.8% GFZ14 ปิด 18,650 บาท และ GFG14 ปิด 18,720 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,650 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,720 บาท ข่าวที่สำคัญ -ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง การแข็งค่าของดอลลาร์ การเริ่มกลับมาเทขายทองคำของกองทุนทองคำ SPDR ขณะที่ตลาดค่อนข้างเงียบเหงาจากวันหยุด Thanksgiving ของสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มเทรดเดอร์ที่ยังคงเฝ้าระมัดระวังก่อนการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์จะเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์นี้ -โดยในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ธนาคารกลางสวิสฯ (SNB) จะให้ประชาชนได้ร่วมลงประชามติ เกี่ยวกับ ธนาคารกลางสวิสฯ สามารถือครองทองคำได้มากขึ้นในสัดส่วน 20% ของทรัพย์สินทั้งหมดหรือไม่ โดยข้อมูลปัจจุบันจาก World Gold Council ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3/2014 สวิสเซอร์แลนด์มีการสำรองทองคำ 7% ที่ระดับ 1,040 ตัน -นักวิเคราะห์จาก Kitco กล่าวว่า แม้ผลสำรวจหลายสำนักจะแสดงให้เห็นว่า ประชาชนชาวสวิสฯส่วนใหญ่จะเลือกโหวต “NO”มากกว่าโหวต “YES” แต่หากผลที่ออกมาในวันอาทิตย์ ประชามติออกมาเป็น “YES” อาจสร้างความเสียหายให้กับตลาดการเงินได้ -ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก HSBC ประเมินว่า หากผลการลงประชามติเป็น “YES” อาจทำให้ราคาทองคำตอบสนองและดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะกลายเป็นผลเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว เนื่องจากจะส่งผลให้ธนาคารกลางสวิสฯ จำเป็นต้องเพิ่มการสำรองทองคำอีกประมาณ 1,500 ตัน แต่หากผลโหวตออกมาเป็น “NO” เช่นเดียวกับผลสำรวจ อาจทำให้ทองคำปรับตัวลดลง และจะช่วยยืนยันแนวโน้มขาลงของทองคำในช่วงต้นสัปดาห์หน้า -นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ ระบุว่า การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบจะส่งผลให้หลายๆประเทศเผชิญกับแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อ และจะส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำด้วย -เนื่องในวันนี้เป็นวัน Black Friday ตลาด COMEX จึงจะปิดทำการเร็วขึ้นประมาณ 01.00น. (ตามเวลาไทย) -ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2462 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2507 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 1.2451 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.1% สู่ระดับ 117.85 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้อ่อนค่าแตะระดับ 118.23 เยน/ดอลลาร์ -เมื่อวานนี้ ที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับสูงเกิน และราคาน้ำมันดิบที่ยังคงร่วงลงอย่างหนัก จนหลุดต่ำกว่า 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010 -นักวิเคราะห์ ระบุว่า อำนาจในการคบคุมราคาน้ำมันในตลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลุ่มโอเปคอีกต่อไปหลังจากที่สมดุลด้านการผลิตเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงมีอุปทานที่สูงเกินไป ซึ่งอุปทานดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากกลุ่มโอเปค -เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวเกี่ยวกับการใช้เม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบการเงินของยุโรปในการเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง รวมถึงหุ้นของกลุ่มบริษัทเอกชนต่างๆ ซึ่งเขาจะไม่ทำการอธิบายใดๆเพิ่มเติมจนกว่าจะทราบผลการประเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจก่อน -อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคำนวณตามมารฐานยุโรป พบว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.5% จากเดิมที่ระดับ 0.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งข้อมูลล่าสุดถือเป็นสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่ประมาณการเงินเฟ้อขั้นต้นประจำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 0.0% จากเดิม -0.3% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงภาวะความเสี่ยงของเศรษฐกิจยูโรโซนที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด -นักวิเคราะห์ ประเมินว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะยังไม่เข้าสู่ภาวะภาวะถดถอยในทันที เพราะยังมีสัญญาณเชิงบวกจากการปรับตัวลดลงของอัตราว่างงานในเยอรมนีและการปรับตัวเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเขตยูโรโซน -ยอดค้าปลีกญี่ปุ่นประจำเดือน ประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลง 1.4% จากระดับ 2.3% เมื่อเทียบรายปี ประมาณการผลิตเบื้องต้นของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.2% จากระดับ 2.9% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น2.9% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 -สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในญ่ปุ่นชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1% เพราะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนเมษายนที่ผ่านมา -อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ จาก สถาบัน โนริชูคิน รีเสิร์ต กล่าวว่า หลังจากบีโอเจประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาล่าสุด เราอาจะได้เห็นบีโอเจตัดสินใจเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า -สถาบันจัดอันดับ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ คาดการณ์ว่า แนวโน้มความน่าเชื่อถือของประเทศ สถาบัน-การเงิน และบริษัทเอกชนในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีเสถียรภาพในปี 2558 จากการเริ่มฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ขณะที่ภาวะทางการเงินทั่วโลกเป็นไปในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานในภูมิภาค และมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับวิกฤตในอนาคต -โดยในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ธนาคารกลางสวิสฯ (SNB) จะให้ประชาชนได้ร่วมลงประชามติ เกี่ยวกับ ธนาคารกลางสวิสฯ สามารถือครองทองคำได้มากขึ้นในสัดส่วน 20% ของทรัพย์สินทั้งหมดหรือไม่ โดยข้อมูลปัจจุบันจาก World Gold Council ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3/2014 สวิสเซอร์แลนด์มีการสำรองทองคำ 7% ที่ระดับ 1,040 ตัน -ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2462 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2507 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 1.2451 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.1% สู่ระดับ 117.85 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้อ่อนค่าแตะระดับ 118.23 เยน/ดอลลาร์ -เมื่อวานนี้ ที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับสูงเกิน และราคาน้ำมันดิบที่ยังคงร่วงลงอย่างหนัก จนหลุดต่ำกว่า 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010 -นักวิเคราะห์ ระบุว่า อำนาจในการคบคุมราคาน้ำมันในตลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลุ่มโอเปคอีกต่อไปหลังจากที่สมดุลด้านการผลิตเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงมีอุปทานที่สูงเกินไป ซึ่งอุปทานดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากกลุ่มโอเปค -สำนักข่าว MKS รายงานว่า ตารางการประชุมโอเปคครั้งถัดไปอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนของปีหน้า โดยยังไม่มีรายงานว่าโอเปคจะมีแผนการประชุมเร่งด่วนต่อจากนี้แต่อย่างใด -อย่างไรก็ดี ประธาน PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของเวเนซูเอล่า กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมัน กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันดิบ โดยทุกฝ่ายต้องเตรียมพร้อมรับมือ -เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวเกี่ยวกับการใช้เม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบการเงินของยุโรปในการเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง รวมถึงหุ้นของกลุ่มบริษัทเอกชนต่างๆ ซึ่งเขาจะไม่ทำการอธิบายใดๆเพิ่มเติมจนกว่าจะทราบผลการประเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจก่อน -อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคำนวณตามมารฐานยุโรป พบว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.5% จากเดิมที่ระดับ 0.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งข้อมูลล่าสุดถือเป็นสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่ประมาณการเงินเฟ้อขั้นต้นประจำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 0.0% จากเดิม -0.3% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงภาวะความเสี่ยงของเศรษฐกิจยูโรโซนที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด -นักวิเคราะห์ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีที่ลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง แต่อัตราแลกเปลี่ยนของเยอรมนีที่มีการอ่อนค่าจึงช่วยชดเชยแรงกดดัน และทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่ร่วงลงไปมากกว่านี้ -รายงานผลสำรวจจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เผยว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในภาคการผลิตและภาคค้าปลีกของยูโรซนประจำเดือนพฤศจิกายนปรับตัวขึ้น 100.8 จาก 100.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แล้ว -ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ระบุว่า เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 4/2014 หลังจากมีการประกาศใช้นโยบายสนับสนุน รวมถึงการยกเลิกมาตรการคุมเข้มทางการเงินในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา -เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด +0.53% เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และกระแสคาดการณ์ที่ว่าต้นทุนด้านเชื้อเพลิงของบริษัทเอกชนจะปรับตัวลง หลังโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมัน -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.90 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบ รวมถึงค่าเงินอื่นๆก็ยังคงทรงตัว สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2557 จะขยายตัวได้ 4% และการส่งออกขยายตัวได้ไม่เกิน 3% ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการส่งออกตลอดปีขยายตัวได้ 0.1% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 1.4% -นักเศรษฐศาสตร์ ประเมินสภาพเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2557 จะกระเตื้องขึ้น และขยายตัวไม่ต่ำกว่าระดับ 3.5% เพราะไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อแม้ว่าการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีจะยังไม่คึกคักจากกฎอัยการศึกก็ตาม และคาดว่าในปี 2558 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 4-5% โดยกรณีพื้นฐานจะอยู่ที่ระดับ 4.5% ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 2/2558 จากภาคส่งออกและการท่องเที่ยวที่มีโอกาสขยายตัวมากขึ้น รวมถึงการเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชนที่เริ่มขยายตัวเป็นบวกหลังติดลบมา 2 ปีต่อเนื่อง -แต่ปัจจัยเสี่ยงที่จะกดดันการเติบโต ได้แก่เรื่องของทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การปรับโครงสร้างราคาพลังงานและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง และมีความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนในระยะสั้น และอาจเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองอีกครั้งหากการเลือกตั้งไม่ตรงตามกำหนดเวลา ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเนื่องจาก ตลาด Comex ปิดเนื่องในวัน Thanksgiving Day ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบเช่นเดิม อย่างไรก็ดีเริ่มมีการปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1190 เหรียญลงมา โดยเมื่อวานไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ เนื่องจากเป็นวันหยุด Thanksgiving ขณะที่ตลาดนิวยอร์กและตลาด COMEX จะปิดทำการเร็วขึ้นเวลาประมาณ 00.30น. ตามเวลาไทย ดังนั้น MTS Gold จะทำการปิดระบบ Gold Online และ Gold Phone ในช่วงเวลา 00.30น. เช่นเดียวกัน สำหรับวันนี้จะไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ทางด้าน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 718.82 ตัน ในขณะที่ตลาดให้ความสนใจไปยังผลการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ในวันอาทิตย์นี้ ว่าจะเพิ่มการสำรองทองคำหรือไม่ หลังผลสำรวจความคิดเห็นการลงประชามติ พบว่า มีผู้โหวต Yes จำนวน 38%โหวต No 47% และ 15% ยังไม่ตัดสินใจ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways โดยกรอบแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,180 เหรียญ และแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,200 เหรียญ ซึ่งหากราคาหลุดด้านใดด้านหนึ่งราคาจะวิ่งไปได้ลึก แต่คาดว่าในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวกรอบแคบเช่นเดิมระหว่าง 1,185-1,195 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวน้อย จึงอาจจะทำอะไรได้ค่อนข้างยาก - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position ปรับ Portfolio ให้สมดุลกับสภาพตลาดต่อไป ไม่ทำการ Leverage มากนัก กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ยังคงแนะนำให้ทำกำไรในแนวโน้มขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,520 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,720 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,800 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 3) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 2. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ