กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--THE AT MOST PRESENTATION
สคบ. จับมือ สพฐ เดินหน้าขยายเครือข่าย “ยุว อสคบ. ในสถานศึกษาทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเร่งพัฒนาศักยภาพและบทบาทเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตรียมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมุ่งสู่การเป็นสังคมแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานในพิธีเปิด โครงการชุมนุมเยาวชนคุ้มครองผู้บริโภคแห่งประเทศไทยสู่อาเซียน กล่าวว่า “ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปัญหาที่ผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิยังปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคที่ขาดความระมัดระวังและไม่ตระหนักถึงสิทธิผู้บริโภคที่มี รวมทั้งเมื่อกระบวนการผลิตสินค้ามีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ประกอบธุรกิจเชื่อมั่นในเทคโนโลยีที่นำมาใช้จนเพิกเฉยต่อความผิดพลาดของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชำรุดบกพร่อง หรือความปลอดภัย นอกจากนี้การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอาเซียนให้เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว จะทำให้มีสินค้าหลากหลายชนิดที่ไม่ได้มาตรฐานกระจายไปยังผู้บริโภคอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคจึงอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบและไม่สามารถคุ้มครองตัวเองได้ และผู้บริโภคส่วนใหญ่ยินยอมที่จะปล่อยเลยตามเลยเมื่อถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ เนื่องจากเบื่อหน่ายขั้นตอนในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมที่ยาวนาน
ดังนั้นการที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะหน่วยงานกลางด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มเยาวชน โดยการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการสร้างและพัฒนาเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคในรูปแบบชมรมคุ้มครองผู้บริโภคในสถานศึกษา และการจัดให้กิจกรรมชมรมคุ้มครองผู้บริโภคเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษาของชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จะช่วยทำให้การขับเคลื่อนประเทศไทย พร้อมก้าวสู่สังคมแห่งผู้บริโภคปลอดภัย ใส่ใจรักษาสิทธิ ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ด้าน นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ.) ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนในการจัดตั้ง “ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค” ในสถานศึกษา พร้อมทั้งจัดให้ “กิจกรรมชมรมคุ้มครองผู้บริโภคเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน” ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทำหน้าที่พัฒนาองค์ความรู้และกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาชมรมคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสนับสนุนสื่อและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการจัดกิจกรรมและกระบวนการที่เกี่ยวข้องให้กับโรงเรียนเพื่อให้การจัดตั้งชมรมคุ้มครองผู้บริโภคและการจัดกิจกรรมชมรมคุ้มครองผู้บริโภคเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมี “ยุว.อสคบ.” ทั่วประเทศกว่า ๗,๕๕๔ คน มีครูที่ปรึกษาชมรมกว่า ๘๓๒ คน และได้มีการจัดกิจกรรมพัฒนาการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคสู่ชุมชนกว่า ๑,๘๖๐ ครั้ง ประกอบกับประเทศสมาชิก “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ๑๐ ประเทศหรือ “อาเซียน” มีเป้าหมายจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนก็ให้ความสำคัญการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ถือเป็นมาตรการทางนโยบายที่ประเทศสมาชิกจำเป็นต้องพิจารณาดำเนินการ และควรมีส่วนร่วมในการพัฒนามาตรการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนารูปแบบกลไกการรับเรื่องร้องเรียนและการเยียวยาผู้บริโภคข้ามแดน การเสริมสร้างสมรรถนะเชิงวิชาการ การสนับสนุนการวิจัยและการประชุมหารือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และการพัฒนารูปแบบการสร้างความตระหนักด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ การจัดงานชุมนุมเยาวชนคุ้มครองผู้บริโภคแห่งประเทศไทยสู่อาเซียน จะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นแก่เยาวชนในการเป็นผู้บริโภคที่ฉลาด เกิดความผูกพันกันในระหว่างกลุ่ม ยุว.อสคบ. พร้อมทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้สถานศึกษาเห็นถึงความสำคัญของงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
สำหรับการจัดงานครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยครูที่ปรึกษาชมรมคุ้มครองผู้บริโภคจำนวน ๑๖๐ คน และ ยุว.อสคบ. จำนวน ๑๖๐ คน จากชมรมคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับการคัดเลือกโดยพิจารณาจากผลงานด้านการจัดกิจกรรมของชมรมคุ้มครองผู้บริโภคติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมาให้ความรู้ กิจกรรมการแข่งขัน THAI SMART YOUNG CONSUMER LEADERS 2014 / กิจกรรม walk rally / อภิปรายให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษาชมรม และยุว.อสคบ. จำนวน ๓ เรื่อง คือ ๑) การรู้เท่าทันของเยาวชนไทยกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ๒) การขยายเครือข่ายชมรมคุ้มครองผู้บริโภคในสถานศึกษาอย่างยั่งยืน และ ๓) ผู้บริโภคต้องเตรียมตัวอย่างไรกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และ พิธีมอบรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศแก่ ยุว อสคบ”