ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. การบินไทย” ที่ ระดับ “A+” และจัดอันดับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทที่ระดับ “A+”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 15, 2014 13:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนและสำรองเพื่อการลงทุน โดยอันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะที่บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจและสายการบินแห่งชาติ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งและทันการณ์จากรัฐบาลโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บริษัทเผชิญกับปัญหาด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการมีภาระหนี้ในระดับสูง ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และความผันผวนของราคาน้ำมัน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงของอุตสาหกรรมการบินและอัตรากำไรของบริษัทที่ปรับลง อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการประกอบการของบริษัทยังอ่อนแออย่างต่อเนื่องหรือรัฐบาลปรับลดการช่วยเหลือ ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้หากบริษัทสามารถปรับปรุงอัตราการทำกำไรจากการดำเนินงานและความสามารถในการชำระหนี้ได้ บริษัทการบินไทยเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซียซึ่งให้บริการการบินเต็มรูปแบบและให้บริการสายการบินคุณภาพระดับกลางผ่านบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “ไทยสมายล์” นอกจากนี้ บริษัทยังถือหุ้นในสัดส่วน 39.2% ใน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำรายสำคัญในประเทศไทยด้วย โดย ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 68 แห่งทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินจำนวน 647 เที่ยวต่อสัปดาห์ และให้บริการเส้นทางการบินในประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 10 แห่ง ด้วยเที่ยวบินจำนวน 357 เที่ยวต่อสัปดาห์ บริษัทมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกระทรวงการคลังมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 51% และธนาคารออมสินยังถือหุ้นในบริษัทอีก 2.1% ด้วย ในขณะที่หุ้นของบริษัทในสัดส่วน 15.1% ที่ถือโดยกองทุนวายุภักษ์นั้นจัดเป็นการถือหุ้นโดยผู้ลงทุนภาคเอกชนแม้กองทุนวายุภักษ์จะได้รับการจัดตั้งโดยกระทรวงการคลังเพื่อลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยลดลง 10.3% เป็น 17.56 ล้านคนเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมืองภายในประเทศซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่ออัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของบริษัท โดยอัตราส่วนดังกล่าวปรับลดลงสู่ระดับ 68.3% เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 75.2% ในช่วงเดียวกันของปี 2556 อันเป็นผลจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของบริษัทที่ลดลงอย่างมากถึง 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาและการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจากสายการบินต้นทุนต่ำ ทั้งนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองยุติลง แม้ว่าขณะนี้จะยังมีการบังคับใช้กฎอัยการศึกอยู่ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2557 ก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 6.1% สู่ระดับ 2.18 ล้านคนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องโดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดลงจากระดับ 19% ในปี 2552 สู่ระดับ 9.6% ในปี 2556 และอยู่ที่ระดับ 4.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในประเทศ เช่น อุทกภัยครั้งใหญ่ และความขัดแย้งทางการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงและการแข่งขันที่รุนแรงจากทั้งสายการบินเต็มรูปแบบและสายการบินต้นทุนต่ำซึ่งกดดันต่อการปรับเพิ่มราคา อีกทั้งบริษัทยังมีต้นทุนในการดำเนินงานในสัดส่วนที่สูงและที่ผ่านมาไม่สามารถปรับลดได้มากนัก จึงส่งผลให้ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงรวมถึงสภาพคล่องที่ตึงตัว อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทปรับตัวลดลงจาก 2.9 เท่าในปี 2556 เป็น 0.9 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมก็ปรับลดลงจากระดับ 10.7% ในปี 2556 สู่ระดับ 3.5% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ทางด้านสภาพคล่อง บริษัทมีเงินสดอยู่ที่ระดับ 18,625 ล้านบาท ณ สิ้นดือนกันยายน 2557 และวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายจำนวน 7,000 ล้านบาทจากธนาคาร โดยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าบริษัทจะต้องชำระคืนเงินกู้จำนวน 28,733 ล้านบาท ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะบริหารสภาพคล่องอย่างรอบคอบเพื่อให้มีแหล่งเงินสำรองสำหรับปิดความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องให้ได้ ภาระหนี้ของบริษัทอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด โดยเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2554 และคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะปานกลาง โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 66% ในปี 2553 สู่ระดับที่สูงกว่า 70% ในช่วงระหว่างปี 2554-2556 และเพิ่มเป็น 82.3% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่ใช้ไปในการจัดหาเครื่องบิน โดยในระหว่างปี 2554-2556 บริษัทได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 100,000 ล้านบาท และมีแผนจะลงทุนอีกประมาณ 20,000 ล้านบาทในปี 2557 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทรับมอบเครื่องบินจำนวน 41 ลำ โดย 18 ลำเป็นการเช่าทางการเงิน ส่วนที่เหลือเป็นการเช่าดำเนินงาน ในช่วงปี 2558-2561 บริษัทมีแผนรับมอบเครื่องบินจำนวน 22 ลำ โดย 10 ลำเป็นการเช่าทางการเงิน ในช่วง 4 ปีข้างหน้า บริษัทมีแผนลงทุนจำนวน 80,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีความจำเป็นต้องลงทุนเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฝูงบิน ทั้งนี้ การใช้งานเครื่องบินใหม่จะเกิดประโยชน์หลายประการ เช่น ปริมาณการใช้น้ำมันและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีหนี้สินที่สูงเกินมาตรฐานสำหรับระดับอันดับเครดิตในปัจจุบัน ซึ่งทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะมีแผนลดภาระหนี้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า หลังจากการทำรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ก็ได้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้น โดยรัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนคือการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน 7 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทการบินไทยด้วย ซึ่งรัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และให้เข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจเพื่อดูแลแผนการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ บริษัทจะสรุปแผนการปฏิรูปธุรกิจในเดือนมกราคม 2558 และเริ่มดำเนินการตามแผนโดยทันที คาดว่าแผนดังกล่าวจะช่วยปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทให้ดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการทำกำไร ทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าของแผนการปรับโครงสร้างของบริษัท ซึ่งอันดับเครดิตของบริษัทขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน รวมถึงความช่วยเหลือทางการเงินในกรณีพิเศษ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากการปรับโครงสร้างของบริษัทไม่เป็นไปตามที่คาดไว้หรือใช้เวลาในการดำเนินงานมากกว่าที่คาดไว้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) อันดับเครดิตองค์กร: A+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: THAI155A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+ THAI165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+ THAI16DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+ THAI17OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+ THAI185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,555 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+ THAI185B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,445 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+ THAI185C: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+ THAI188A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+ THAI192A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+ THAI192B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+ THAI19OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+ THAI208A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+ THAI212A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+ THAI215A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 833 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+ THAI215B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,167 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 256 A+ THAI222A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 256 A+ THAI22OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 256 A+ THAI238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+ THAI242A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+ THAI243A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+ หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ