สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 16, 2014 10:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,217 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,213เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.94 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท และกลับมาปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 835 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 4,070 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 6.8 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2.28% GFZ14 ปิด 19,030 บาท และ GFG14 ปิด 19,120 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,040 บาท GF10G14 ปิดที่ 19,120 บาท สัญญา Comex ลดลง 14.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,207.7 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.9 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 55.91 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 723.36 ตัน ( ขายออก 2.39ตัน) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำได้ปรับตัวลดลงกว่า 2% ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,191 เหรียญ หลังจากที่เคลื่อนไหวทรงตัวบริเวณ 1,210เหรียญ เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุนหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อ รวมถึงแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ -นักวิเคราะห์จาก BMO ระบุว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบฉุดให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟด โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับกรอบเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ในการประชุมวาระนี้ -นักวิเคราะห์จากฟิลลิปฟิวเจอร์ส ประเมินว่า หากเฟดส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจกดดันให้ราคาทองคำลงไปทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,140 เหรียญได้ -เทรดเดอร์ ระบุว่า การร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ของค่าเงินรูเบิล อาจกระตุ้นให้รัสเซียทำการเทขายทองคำเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงที่เกิดขึ้น -เมื่อวานนี้ SPDR กลับมาเทขายทองคำออก 2.39 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 723.36 ตัน -ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2435 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2451 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้ทรงตัว 1.2444 ยูโร/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาในทิศทางที่แตกต่างกัน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 88.47 -ด้านค่าเงินเยนแข็งค่าสู่ระดับ 117.71 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 118.75 เยน/ดอลลาร์ และเช้านี้เคลื่อนไหวที่ระดับ 117.77เยน/ดอลลาร์ -เมื่อคืนนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพฤศจิกายนปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 1.3% จากระดับ 0.1% ในเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับแรงสนับสนุนจาภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องจักร สิ่งทอและสินค้าอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์การผลิตที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะยังคงปรับตัวลดลง -ขณะที่ เฟดเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมในเขตนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Index) ของสหรัฐฯประจำเดือนธันวาคม ปรับตัวลดลงอย่างมากสู่ระดับ -3.6 จุด จากเดิมที่ระดับ 10.2 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี -นักลงทุนต่างจับตาการประชุมเฟดที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 16-17 ธันวาคมนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น ถึงแม้จะมีกระแสคาดการณ์ว่า การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมัน อาจทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงอาจสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ -เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงปิดปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดแตะระดับต่ำสุดต่อเนื่อง 55.91 เหรียญ/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ระบุว่า กลุ่มโอเปค จะไม่ประกาศปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันเพื่อยับยั้งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ แม้ว่าราคามีโอกาสจะร่วงลงแตะระดับ 40 เหรียญ/บาร์เรลก็ตาม -ค่าเงินรูเบิลปรับตัวลดลงกว่า 10% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และยังเป็นการอ่อนค่าใกล้แตะระดับ 60 รูเบิล/ดอลลาร์ เป็นครั้งแรก โดยเมื่อวานนี้ปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 64.44 รูเบิล/ดอลลาร์ -สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า รัสเซียอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 17% จาก 10.5% ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 เพื่อป้องกันการร่วงลงของค่าเงินรูเบิลไม่ให้ส่งผลคุกคามต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน -สถานการณ์ในซิดนีย์ยุติลงแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียได้เข้าบุกชิงตัวประกันเพื่อควบคุมสถานการณ์บริเวณมาร์ตินเพลส หลังมีกลุ่มติดอาวุธถือธงกลุ่มไอซิส (ISIS) บุกจับตัวประกันร้านคาเฟ่ ช็อกโกแลต ลินดต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย -ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงกดดันให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกกลุ่มพลังงานทั่วโลก -โดยดัชนีดาวโจนส์ยังคงปิดในแดนลบ โดยปรับตัวลง 0.1% โดยเป็นการปรับตัวลดลงอย่างจำกัด เพราะตลาดยังขานรับกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่เช้าวันนี้ ตลาดหุ้นนิกเกอิเปิด -1.39% -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.10 บาท/ดอลลาร์ โดยจับตาไปยังการประชุมเฟดที่จะเริ่มต้นในคืนนี้ รวมถึงการประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ -กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวชี้แจงกรณีการขึ้นของตลาดหุ้นไทยวานนี้ที่ร่วงลงเร็วกว่า 130 จุด หรือกว่า 9% เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงในประเทศ รวมถึงแรงเทขายในลักษณะ Panic Sell จากกลุ่มกองทุน นักลงทุนต่างชาติ และพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อ ก่อนจะมีแรงซื้อกลับและรีบาวน์มาปิดสะท้อนปัจจัยปกติในช่วงปลายตลาด ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันจันทร์ - Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 10.2 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -3.6 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ -Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.08 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.06 M -Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.01 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.04 M -Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 54.8 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 56.1 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเริ่มมีความผันผวนในทิศทางขาลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาทองคำยังทรงตัวเหนือ 1,200 เหรียญได้โดยตลอด โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน ได้แก่Empire State Manufacturing Index ออกมาแย่ลงสู่ระดับ -3.6 ทำให้ช่วงการซื้อขายของตลาดCOMEX ยังดีดตัวสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,217 เหรียญ และปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,207.7เหรียญ ขณะที่ราคากลับมาร่วงลงหลังจากตลาด COMEX ปิดทำการเวลาประมาณตี 1 บ้านเรา มาอยู่ระดับ 1,200 เหรียญลงมา ขณะที่ตลาดฮ่องกงเปิดที่ 1197 เหรียญ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ โดยราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ปิดตลาดที่ 55.91 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวลดลง99.99 จุด ที่ระดับ 17,180.84 จุด ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียส่วนใหญ่เปิดตัวติดลบต่อเนื่อง โดยนิกเกอิเปิด -1.39% ขณะที่ฮั่งเส็งเปิด -0.65% และเมื่อวานนี้ SPDR กลับมาเทขายทองคำออก 2.39 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 723.36 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในค่ำคืนนี้ของสหรัฐฯ ได้แก่ Building Premits ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย ขณะที่ Housing Starts และManufacturing PMI ที่คาดว่าจะดีขึ้น วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญ 1,200 เหรียญ ซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ 3 เส้น ซึ่งการที่หลุดลงมาและหากในวันนี้ราคายังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญได้อีกครั้ง จะทำให้ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงโดยสมบูรณ์ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว โดยทองคำวันนี้จะมีแนวต้าน 1,205เหรียญ และแนวรับ 1,180 เหรียญ ซึ่งอาจเห็นความผันผวนของทองคำได้จากความผันผวนของตลาดหุ้นและแรงเทขายในตลาดทองคำ โดยทางเทคนิคนั้นราคาทองคำทั้งในระยะสั้น กลาง และยาวเข้าสู่ขาลงอีกครั้งหนึ่ง โดยระยะยาวคาดว่าจะราคาทองคำจะมีเป้าหมายคือจุดต่ำสุดเดิม 1,140 เหรียญแต่อาจจะเกิดขึ้นข้ามปี กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรในระยะสั้น โดยเริ่มปรับมาทำกำไรทิศทางขาลง - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังวะขายทำกำไร เพื่อปิดสถานะ Long ลดความเสี่ยง - นักลงทุนที่ถือ Short Position หาจังหวะเปิดสถานะ Short เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ยังเป็นแนวโน้มขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,730 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,930 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ