กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--โปรเฟสชั่นนัล อิมเมจ เมกเกอร์
เอไลฟ์ โชว์ยอดเบี้ยรับงาน Set in the City 169 ล้านบาท ชี้เทรนด์ประกันสะสมทรัพย์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ระบุออมสั้นมาแรงหนึ่งในการทางเลือกวางแผนการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง ในช่วงดอกเบี้ยขาลง มั่นใจสิ้นปียอดเบี้ยรับรวมเติบโตตามเป้า 1,000 ล้านบาท
ดร.เจตน์สุระ วงศ์วิเชียร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจประกันชีวิตในช่วงโค้งสุดท้ายของปีว่า ผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี และผลิตภัณฑ์สำหรับวัยเกษียณ ยังคงได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากช่วงปลายปี กลุ่มลูกค้ายังคงมองหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษี ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ระยะสั้น ก็เป็นอีกหนึ่งหนึ่งทางเลือกที่กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจในการวางแผนการเงิน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับเงินฝากทั่วไป อีกทั้งผลตอบแทนยังไม่ต้องเสียภาษี
ล่าสุดในการร่วมออกบูธงาน Set in the City 2014 ที่ผ่านมา เอไลฟ์ได้ร่วมออกบูธภายใต้แนวคิด วางแผนการเงิน แค่คิด…ชีวิตก็เปลี่ยน ซึ่งภายในบูธได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาขอรับคำปรึกษาจากทีมที่ปรึกษาวางแผนการเงิน (Wealth Assistant) เป็นจำนวนกว่า 200 ราย ตลอดทั้งงาน โดยมียอดเบี้ยรับใหม่สูงถึง 169 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีได้แก่ Super Strike3 ผลิตภัณฑ์ Single Premium ที่จ่ายเบี้ยประกันเพียงครั้งเดียว ให้ผลตอบแทนคงที่ 4.5% ทุกปี โดยไม่ต้องถูกหักภาษี ตลอดระยะเวลา 3 ปี คุ้มครองสูงถึง 110% มียอดเบี้ยรับภายในงานสูงถึง 167 ล้านบาท ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลดหย่อนภาษี ผลิตภัณฑ์เพื่อวัยเกษียณที่นำมาร่วมออกบูธภายในงานอาทิ Sure 10 (4%), Smart Planning 12/6, Annuity 90/1, บำนาญมั่งมี 85/55 และSmart Term Series (Bronze, Silver, Gold) ก็ได้รับความสนใจเช่นกัน โดยมียอดเบี้ยรับภายในงานรวมกันถึง 2 ล้านบาท
“นอกจากผลิตภัณฑ์ลดหย่อยภาษี และผลิตภัณฑ์รองรับวัยเกษียณจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ก็ได้รับความสนใจแพ้กัน เนื่องจากภายในงานเอไลฟ์ได้นำไฮไลท์ของผลิตภัณฑ์อย่าง Super Strike3 ที่จ่ายผลตอบแทนคงที่สูงถึง 4.5% ทุกปี มาร่วมสร้างสีสันทางการเงินให้กับผู้เข้าร่วมชมงานได้มีโอกาสในการสร้างทางเลือกในการบริหารแผนการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง” ดร.เจตน์สุระ กล่าว
อย่างไรก็ตามจากความสำเร็จของการร่วมออกงาน Set in the City 2014 แล้ว บริษัทเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมียอดเบี้ยรับรวมที่ 1,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งบริษัทจะยังคงเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายเพื่อรองรับการแข่งขัน และตอบสนองไลฟ์สไตล์ความต้องการด้านการวางแผนการเงินแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง