KTIS ปลื้มติดอันดับคำนวณ SET50 มั่นใจมาร์เก็ตแคปใหญ่-สภาพคล่องสูง-พื้นฐานแน่น ดันหุ้นเข้าตานักลงทุนสถาบัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 18, 2014 14:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--ไอทูซี คอมมิวนิเคชั่นส์ ผู้บริหาร KTIS ยิ้มรับข่าวดีส่งท้ายปี หลังตลาดหลักทรัพย์ฯประกาศหุ้น KTIS ติดอันดับคำนวณดัชนี SET50 เผยก่อนหน้านี้ติดกลุ่มคำนวณดัชนี MSCI ไปแล้ว มั่นใจได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น เพราะไม่ใช่แค่เพียงเป็นหุ้นใหญ่-สภาพคล่องสูง แต่เนื้อในกิจการยังมีโอกาสเติบโตสูง ขณะที่พื้นฐานแน่นปึ้ก มีความพร้อมทั้งฐานเงินทุน ความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มั่นใจทุกปัจจัยช่วยผลักดันให้หุ้น KTIS โดดเด่นได้แน่ นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เคทิส (KTIS) ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณดัชนีราคาหุ้น 50 หลักทรัพย์หรือ SET50 และดัชนีราคาหุ้น 100 หลักทรัพย์หรือ SET100 ในรอบระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 มิถุนายน 2558 นั้น ปรากฏว่า หุ้น KTIS เป็นหนึ่งในหุ้นชุดใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกในเข้าไปคำนวณรวมในดัชนี SET50 ด้วย ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการเลือกหุ้นเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น จะพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ประการ หนึ่ง คือ หุ้นดังกล่าวจะต้องเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคปสูง สอง คือ หุ้นดังกล่าวจะต้องมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงอย่างสม่ำเสมอ และ สาม มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยผ่านเกณฑ์ที่กำหนด โดยจะมีการปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณทุกๆ 6 เดือน “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้นของ KTIS ได้รับการคัดเลือกให้คำนวณในดัชนี SET50 โดยก่อนหน้านี้ ทาง MSCI ซึ่งเป็นสถาบันการลงทุนรายใหญ่ของโลก ก็เพิ่งทบทวนหุ้นทั่วโลกที่จะนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่ ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 โดยในครั้งนั้น หุ้น KTIS ก็ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap. ซึ่งแน่นอนว่า การได้รับคัดเลือกให้เข้าไปคำนวณในดัชนีสำคัญๆ ถึง 2 ดัชนี ที่เป็นดัชนีที่นักลงทุนสถาบันใช้เป็นตัวอ้างอิงในการตัดสินใจลงทุน จะทำให้หุ้น KTIS อยู่ในสายตานักลงทุนสถาบันมากยิ่งขึ้น” นายณัฎฐปัญญ์กล่าว จุดเด่นที่สำคัญของ KTIS คือ เป็นกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม พลังงานไฟฟ้า และพลังงานทดแทนที่ครบวงจร ตั้งแต่ไร่อ้อย เข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำตาล ไฟฟ้า เอทานอล เยื่อกระดาษ และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ?อีกทั้งยังมีความพร้อมทางด้านฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง บุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างกลุ่มซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น และ นิสชิน ชูการ์ ดังนั้น ที่ผ่านมา กลุ่มเคทิสจึงได้มีแนวทางในการขยายงานในหลายด้าน ทั้งในสายธุรกิจน้ำตาล และสายธุรกิจชีวพลังงาน โดยในสายธุรกิจน้ำตาลนั้นได้มีโครงการผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sucrose) และโครงการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) ที่บริเวณโรงงานน้ำตาลของเคทิส จ.นครสวรรค์ ขณะที่สายธุรกิจชีวพลังงาน ก็ได้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลอีก 2 โรง กำลังการผลิตโรงละ 50 เมกะวัตต์ รวมเป็น 100 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 2 แห่งจะอยู่ในพื้นที่ติดกับโรงงานน้ำตาลที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และที่จังหวัดนครสวรรค์ และยังมีโครงการผลิตปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพอ้อยอีกด้วย “ปัจจัยทั้งหมดจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับเคทิส และเมื่อผนวกกับความเชื่อมั่นที่ได้รับจากนักลงทุนสถาบัน ภายหลังจากหุ้น KTIS เข้าไปคำนวณในดัชนี MSCI และดัชนี SET 50 ก็จะยิ่งตอกย้ำให้หุ้นของบริษัทฯ มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” นายณัฎฐปัญญ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ