กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--AMR Asia
แนวโน้มการบริโภคที่สะท้อนให้เห็นนวัตกรรมที่เป็นโอกาสให้เกิดธุรกิจใหม่และสร้างผลกำไรในปี 2015 ท่านจะพบกับวิธีการที่น่าตื่นเต้นของการนำเทคโนโลยีที่เป็นแนวโน้มนี้ไปใช้กับผู้บริโภค แต่ละแนวโน้มจะชี้ให้เห็นนวัตกรรมที่เป็นโอกาสให้นำไปปฏิบัติเพื่อเสนอเป็นบริการที่สามารถสร้างความพึงพอใจ ความแปลกใหม่ หรือ ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับลูกค้าได้
1. ทักษะที่ได้มาในทันที
ผู้บริโภคตั้งแต่ชนชั้นกลางที่มั่งคั่งจนถึงผู้บริโภคยุคดิจิตอลจำนวนมากจะสนใจเพียงว่าตนเองจะทำอะไรได้ สร้างสรรค์อะไรได้ จะได้รับแรงบันดาลใจจากการได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพสูงเป็นหลัก เช่น HEXO+ เป็นโดรนที่สามารถตามและถ่ายภาพยนต์ของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ เมื่อมีคนเข้ามาในพื้นที่สำหรับถ่ายภาพยนต์ โดรนก็จะตามคนนั้นไปทุกย่างก้าว และจับภาพให้คนอยู่ภายในกรอบโดยอัตโนมัติ
2. ช่องทางพิเศษ
ผู้บริโภคจะคาดหวังให้แบรนด์ที่เขาใช้จ่ายด้วยมากๆ จัดช่องทางพิเศษที่ไม่ต้องรอให้ เช่น สวนสนุกไลส์เบิร์กในสวีเดน ออกแอพมาพร้อมกับเครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกาที่เปิดให้บริการใหม่ ผู้เล่นที่กำลังรอคิวที่เครื่องเล่นก็จะมีเกมบนแอพ Helix Game ให้เล่นฟรี และเมื่อเล่นครบ 15 นาทีก็จะลัดคิวให้กับคนที่ได้คะแนนสูงสุด
3. ร่วมกันจ่าย
การชำระเงินผ่านระบบเคลื่อนที่จะกลายเป็นเรื่องปกติ โอกาสทางธุรกิจหนึ่งที่น่าทำได้คือการร่วมกันจ่ายโดยการใช้แอพที่ช่วยให้ผู้บริโภคแชร์ค่าใช้จ่ายกันได้ง่ายๆ นี่ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์แต่เป็นบริการและประสบการณ์ใหม่ด้วย กลายเป็นว่าเราได้เปลี่ยนเวลาที่ต้องชำระเงินเป็นเวลาแห่งความสุขของลูกค้า
4. แบ่งปันสิ่งของทางอินเตอร์เน็ต
ก้าวที่ต่อไปที่ถัดจากอินเตอร์เน็ตของสิ่งของต่างๆ จะเป็นอะไร เนื่องจากมีการเชื่อมต่อของสิ่งของมากชนิดขึ้น การสร้างคุณค่าจากสิ่งของกับผู้บริโภควิธีใหม่ก็คือการแบ่งการใช้ เช่นบริการ Breather ที่เปิดบริการแล้วใน 4 มหานคร คือ นิวยอร์ค ซานฟานซิสโก มอนทรีออล และออตตาวา ให้ผู้คนหาพื้นที่ว่างในเมืองให้เช่า แม้เวลาเช่าอาจสั้นเพียง 30 นาทีก็ตามให้เป็นที่พักผ่อนหรือที่ทำงาน หลังจากจองแล้วผู้ใช้งานจะมีสิทธิ์ชั่วคราวให้เข้าพื้นที่ได้ด้วยระบบเอ็นเอฟซีที่ไม่ต้องพึ่งกุญแจ
5. สร้างแบรนด์ราชการ
ผู้บริโภคทั่วโลกทราบดีว่าภาครัฐมีความยุ่งยากในตอบสนองต่อประเด็นทางสังคมและเศรษฐกิจที่รุมเร้าเพราะข้อกำจัดด้านงบประมาณและความไม่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้นจึงมีผู้รับอาสามาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมให้ดีขึ้น และไม่ใช่แค่การดำเนินกิจกรรมขององค์กรที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั่วๆ ไป แต่จะเสาะหาข้อพบพร่องของภาครัฐผ่านพันธมิตรหรือเป็นการทำงานตรงกับชุมชนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางบวกอย่างจริงจังและยั่งยืน เช่น แอพข้อมูลจารจรบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ Waze เปิดบริการ Connected Citizens: ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกับรัฐบาลทั่วโลกโดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงสภาพการจารจรในเมือง โครงการนี้ดำเนินการอยู่ในหลายมหานคร เช่น ลอส แองเจลิส ริโอ เดอ จาเนโร บาเซโลนา และ เทล อาวิฟ
6. พ้นยุคการบริโภคที่จำแนกตามกลุ่มประชากร
เนื่องจากผู้คนในทุกวัยที่อยู่ในตลาดต่างๆ มีอิสระในการสร้างความเป็นตัวตนกว่าเมื่อก่อน จึงไม่สามารถนิยามรูปแบบการบริโภคด้วยการแบ่งตามกลุ่มประชากรแบบเดิมได้อีกต่อไป แม้ว่าผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่มีฐานะจะยังคงเป็นผู้รับนวัตกรรมเป็นกลุ่มแรกๆ แต่เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์ บริการ และ แบรนด์เมื่อประสบความสำเร็จจะก้าวพ้นกลุ่มประชากรกลุ่มแรกนี้อย่างรวดเร็ว เช่น ในสหราชอาณาจักร ตอนนี้ผู้เล่นวิดีโอเกมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเป็นผู้เล่นที่มีอายุมากกว่า 44 ปีมากกว่าผู้เล่นที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี
7. รางวัลตอบแทนการเปลี่ยนแปลง
แรงจูงใจในการพัฒนาตนเองเป็นอะไรที่มีอยู่ในทุกๆ คนเป็นพื้นฐาน แต่ความตั้งใจและความเป็นจริงก็มักขัดแย้งกัน ในปี 2015 แบรนด์ฉลาดๆ จะมาพลิกสถานะการณ์นี้ แนวทางคือ การสร้างข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งเมื่อปฏิบัติตามแล้วผู้ใช้จะได้รับรางวัลตอบแทนการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นเงินรางวัล สิ่งล่อใจ หรือส่วนลด ซึ่งช่วยให้ก้าวพ้นความไม่สะดวก ค่าใช้จ่าย หรือ ความเฉื่อยชาที่คนทั่วไปมีในเวลาที่ต้องพัฒนาตนเอง เช่น ธนาคารในรัสเซีย Alfa-Bank เสนอส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่ออกกำลังกาย ลูกค้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายเข้ากับบริการของธนาคารและนับก้าวเดินจะได้รับดอกเบี้ยของเงินฝากบัญชีอออมทรัพย์ในอัตราที่สูงกว่าอัตราปกติทั่วไป
8. ตั้งราคาแบบเห็นอกเห็นใจ
ผู้บริโภคใช้ส่วนลดหรือข้อเสนอที่ช่วยส่งเสริมเป้าหมายร่วมกันหรือช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับผู้เดือดร้อน การใช้กลยุทธ์ตั้งราคาแบบเห็นอกเห็นใจที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงประเด็นสาธารณะหรือผู้เดือดร้อนย่อมเป็นวิธีการที่มีพลังในการแสดงถึงความห่วงใยจากแบรนด์ดัง เช่น ในช่วงการแข่งกันฟุตบอลโลกปี 2014 สำนักพิมพ์ Lote 42 เสนอให้ส่วนลด 10% กับทุกประตูที่ทีมชาติบราซิลเสียไปในการแข่งขัน ตอนที่บราซิลแพ้ให้กับเยอรมัน 7-1 ลูกค้าก็ได้รับส่วนลด 70% เป็นเวลา 24 ชั่วโมงและโด่งดังไปทั้งประเทศ
9. หุ่นยนต์ครองโลก
ธุรกิจฉลาดๆ จะวางแผนว่าจะนำหุ่นยนต์มาช่วยลดต้นทุนลงอย่างไร และช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างไรด้วย สาเหตุที่การใช้หุ่นยนต์จะให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้นได้เพราะหุ่นยนต์นั้นมีความแน่นอนกว่า ทำงานเร็วกว่า ทำอะไรได้มากอย่างกว่า ให้ความเป็นส่วนตัวกว่า สะดวกกว่า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้หุ่นยนต์จะช่วยปลดเปลื้องภาระงานออกจากลูกจ้างไม่ให้ต้องทำอะไรซ้ำๆ จะได้ไปทำงานที่มีคุณค่ามากขึ้น และต้องปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ส่งผลให้ลูกจ้างมีความพึงพอใจมากขึ้นและท้ายที่สุดก็ลูกค้าก็มีความพึงพอใจมากขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น สนามบินในเยอรมัน Düsseldorf Airport เปิดบริการหุ่นยนต์ตัวผู้ช่วยจอดรถเป็นครั้งแรกในโลก ผู้โดยสารจะทิ้งรถยนต์ไว้ให้หุ่นยนต์นำไปจอดในช่องจอดรถที่ว่างจากที่มีอยู่ 249 ช่อง ซึ่งระบบจอดรถนี้เชื่อมต่อกับข้อมูลเที่ยวบินของสนามบิน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจะมีรถยนต์ของตนเองมารอรับและพร้อมให้ขับกลับบ้านในทันที
10. จุดยืนของแบรนด์
เมื่อผู้บริโภคถูกแวดล้อมไปด้วยข้อมูลของแบรนด์ต่างๆ มากมายที่สื่อออกมาอย่างกลางๆ นั่นหมายความว่าแบรนด์นั้นจะค่อยๆ เลือนหายไปกับความคลุมเครือ และมีผู้บริโภคจำนวนมากทีเดียวที่เชื่อว่าแบรนด์ต่างๆ ควรออกมาแสดงจุดยืน ในปี 2015 จะมีแบรนด์ที่หาญกล้าและเสียสละอย่างแท้จริงเพื่อประชาชน สังคม และโลกของเรา ตัวอย่างเช่น ในโปแลนด์ Nie hejtuj? (‘ฉันไม่เกลียดใคร’) เป็นชุมชนออนไลน์ที่เน้นให้เห็นถึงผลกระทบทางลบของการกลั่นแกล้งและการป่วนทางไซเบอร์ วารสาร Glamour ในโปแลนด์จึงสนับสนุนหน้าโฆษณาขนาด 1 หน้ากระดาษเต็มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ให้ผู้ก่อตั้งชุมชนลงบทความเกี่ยวกับ “วัฒนธรรมการเกลียดชัง” ที่แพร่หลายกันในโลกออนไลน์
ที่มา: http://www.whitespace-cloud.com, http://goo.gl/K1A7BO