รมว.พม. กำชับเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและพิการที่จังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร และอ่างทอง

ข่าวทั่วไป Monday December 22, 2014 13:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--พม. พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๖๑/๒๕๕๗ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น ๘ อาคารใหม่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงพิการ อายุ ๕๘ ปี ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน บางวันลูกต้องหยุดเรียนมาดูแล ที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งกรณีดังกล่าวตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ(พมจ.ศรีสะเกษ) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานต่างๆ ให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวดังกล่าวในระยะยาว ส่วนกรณีสองพี่น้อง อายุ ๕๗ ปี และ อายุ ๔๒ ปี ซึ่งพี่สาวป่วยด้วยโรคร้าย ส่วนน้องชายพิการเป็นใบ้ หูหนวกตาบอด ครอบครัวมีฐานะยากจน ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร (สนง.พมจ.ยโสธร) เคยช่วยเหลือโดยให้กู้เงินกองทุนประกอบอาชีพสำหรับผู้พิการ จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย แต่ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานดูแลสองพี่น้องอย่างต่อเนื่องที่จังหวัดยโสธร ซึ่งกรณีนี้ตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร(พมจ.ยโสธร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลืออีกครั้ง พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันช่วยเหลือดูแลคุณภาพชีวิตของสองพี่น้องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีหญิงสูงอายุ ๒ พี่น้อง ซึ่งพี่สาววัย ๖๕ ปี และน้องสาววัย ๕๘ ปี ซึ่งน้องสาวป่วยเป็นเนื้องอกในลำไส้ ต้องตัดลำไส้ทิ้ง และเป็นอัมพาต ส่วนพี่สาวปวดกล้ามเนื้อเดินไม่ค่อยไหว ครอบครัวมีฐานะยากจน มีเพียงรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ ๖๐๐ บาท เท่านั้น ที่จังหวัดอ่างทอง ซึ่งกรณีดังกล่าวตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง(พมจ.อ่างทอง) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลหญิงสูงอายุสองคนพี่น้องต่อไป พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณีลูกเรือประมงชาวไทย ที่ทำงานในเรือประมงในน่านน้ำประเทศอิหร่าน ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยประสานรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือพากลับบ้าน หลังพบนายจ้าง จ้างงานไม่เป็นธรรม ไม่มีความปลอดภัย ไม่เป็นไปตามข้อตกลงจ้างงานก่อนลงเรือ ซึ่งกรณีดังกล่าวตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จ เพื่อเร่งช่วยเหลือแรงงานประมงดังกล่าวต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ