กรมธนารักษ์ จับมือ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักร มุ่งแลกเปลี่ยนความรู้นวัตกรรมด้านเหรียญกษาปณ์และฐานการผลิต

ข่าวทั่วไป Monday January 5, 2015 12:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง กระทรวงการคลังได้นำเสนอโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการด้านเหรียญกษาปณ์ระหว่างกรมธนารักษ์กับโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักร (The Technical Cooperation Agreement between Treasury Department and The Royal Mint of the United Kingdom) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา และคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการด้านเหรียญกษาปณ์ระหว่างกรมธนารักษ์และโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักร นับเป็นโครงการที่สำคัญระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอังกฤษภายใต้การประชุมหารือเชิงยุทธศาสตร์ ไทย – สหราชอาณาจักร ในด้านวิชาการ การค้า และการลงทุน (Thai – UK Strategic Dialogue) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศในปัจจุบัน และรวมถึงเป็นโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการด้านเหรียญกษาปณ์ครั้งแรกระหว่าง 2 โรงกษาปณ์นานาชาติในการแบ่งปันนวัตกรรมด้านเหรียญกษาปณ์และฐานการผลิต โดยที่นวัตกรรมการผลิตถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมเหรียญกษาปณ์ อันเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงทางนวัตกรรมการผลิตและฐานลูกค้า ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตเหรียญกษาปณ์ถือว่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ประกอบด้วย โรงกษาปณ์ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ผู้ผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์ บรรจุภัณฑ์ แผ่นม้วน และวัตถุดิบ (ทองคำ เงิน นิเกิล ทองแดง สังกะสี ฯลฯ) บริษัทเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ โดยมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบทั่วโลกประมาณหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูง ด้วยความต้องการใช้เหรียญกษาปณ์มากขึ้น แต่มีการแข่งขันทางการค้า การลงทุน และเทคโนโลยีค่อนข้างสูง โรงกษาปณ์นานาชาติมีสถานะเป็นทั้งส่วนราชการหรือเป็นรัฐวิสาหกิจ มีเป้าหมายในการสร้างรายได้เข้ารัฐ โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้กำกับดูแล แต่ในบางประเทศธนาคารชาติจะเป็นผู้ผลิตทั้งธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ทั้งนี้ โรงกษาปณ์นานาชาติ ขนาดใหญ่ ได้แก่ The Royal Mint of the United Kingdom (ประเทศอังกฤษ) Royal Canadian Mint (ประเทศแคนาดา) Finland Mint (ประเทศฟินแลนด์) South African Mint (ประเทศแอฟริกาใต้) Monnaie de Paris (ประเทศฝรั่งเศส) Bavarian State Mint (ประเทศเยอรมันนี) นายนริศ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือจากโรงกษาปณ์อังกฤษครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสที่สำคัญต่อการส่งเสริมสมรรถนะ และศักยภาพของโรงกษาปณ์ไทยในการพัฒนาและปรับปรุงกรรมวิธีกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และการตลาดให้เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงการจัดตั้ง Regional Coin Academy แห่งแรกของอาเซียนไว้ที่โรงกษาปณ์ไทย โดยมีเป้าหมายในการอบรมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของบุคลากรทางด้านอุตสาหกรรมกษาปณ์ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีวิทยากรจากโรงกษาปณ์อังกฤษและไทยเป็นผู้ฝึกอบรมและเป็นการร่วมมือทางพันธมิตรระดับพหุภาคีที่สำคัญในภูมิภาคอาซียน โรงกษาปณ์ไทยจะได้รับสิทธิพิเศษ (Exclusive Rights) ในการรับงานผลิตของสั่งจ้างในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) จากโรงกษาปณ์อังกฤษที่เห็นว่าโรงกษาปณ์ไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถและตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ AEC นอกจากนั้น ประเทศไทยมีแผนในการขยายฐานการตลาดในอนาคตไปยังประเทศภูฐาน และเนปาล อีกทั้งจะได้เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการออกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ที่มีคุณภาพและต้นทุนที่เหมาะสมตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายนริศ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในอดีตประเทศไทยและประเทศอังกฤษมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนมาช้านานแล้ว โดยเฉพาะด้านเหรียญกษาปณ์ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งที่ Queen Victoria ได้ส่งเครื่องตีตราเหรียญกษาปณ์แบบไอน้ำจากเมือง Birmingham มาถวายบรรณาการรัชกาลที่ 4 เมื่อทราบความว่าประเทศไทยต้องการจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดทำเหรียญกษาปณ์เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการค้าระหว่างประเทศ และจัดตั้งโรงกษาปณ์ที่เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกับอารยะประเทศแถบยุโรป พร้อมทั้งส่งวิศวกรมาช่วยดูแลการจัดตั้งโรงกษาปณ์ไว้ในพระบรมมหาราชวัง โดยที่โครงการ ความร่วมมือดังกล่าวเป็นโครงการที่มีความสำคัญระดับพหุภาคีที่ได้รับความสนับสนุนอย่างดียิ่งจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Mark Andrew Geoffery Kent) ที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง และในโอกาสเฉลิมฉลองความร่วมมือในครั้งนี้ กรมธนารักษ์จะได้จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกช้างไทย (Thai Elephant Commemorative Coin Project) เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่เล็งเห็นความสำคัญและมีพระกรุณาต่อช้างไทยอันเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือในการออกแบบระหว่างสำนักกษาปณ์และโรงกษาปณ์ The Royal Mint ได้ร่วมมือกันออกแบบเหรียญที่สวยงามและมีคุณค่าด้วยเทคนิคภาพแฝง (Latent Image) และจะผลิตในจำนวนจำกัดเพื่อออกจำหน่ายในตลาดโลกช่วงปี 2558 อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์มีกำหนดจะลงนามความร่วมมือฉบับดังกล่าวกับโรงกษาปณ์อังกฤษที่สถานทูตไทยในกรุงลอนดอนในต้นเดือนมกราคม 2558 โดยมีสักขีพยานที่สำคัญจากฝ่ายไทย (Thailand Team) นำโดย อุปทูต รักษาการเอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร รวมทั้งผู้แทนจากหัวหน้าสำนักงานพาณิชย์ ผู้แทนความมั่นคง และฝ่ายสหราชอาณาจักร ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลังแห่งสหราชอาณาจักร นายนริศ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ