‘เบคโก้’ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ขายดีอันดับ 2 ของยุโรป เลือกไทยเป็นฐาน ผลิตสำหรับอาเซียน – ลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) สร้างโรงงานใหม่ พร้อมส่งออกต้นปี 2559

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 8, 2015 11:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ สร้างฐานการผลิตสำหรับภูมิภาค เพื่อต่อยอดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเบคโก้ที่เกิดขึ้นมาแล้วในยุโรป ที่เบคโก้เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขายดีอันดับ 1 ในอังกฤษ เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบบตั้งพื้นขายดีอันดับ 1 ในฝรั่งเศส และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขายดีเป็นอันดับ 2 ทั่วยุโรป ทำให้เกิดขึ้นอีกครั้งในเออีซี คาดการณ์ยอดส่งออกจากประเทศไทย เป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี ส่งออกมากกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ผลิตในประเทศไทย เริ่มต้นฐานการผลิตสำหรับเออีซีแห่งนี้ด้วยการผลิตตู้เย็น ขยายเครือข่ายร้านค้าจำหน่ายสินค้าเบคโก้เป็น 100 แห่งในประเทศไทยในปี 2558 ‘เบคโก้’ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ขายดีเป็นอันดับ 2 ของยุโรป ประกาศวันนี้ว่า ได้เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในอาเซียน โดยโรงงานแห่งนี้จะเริ่มการผลิตสินค้าได้ภายในปลายปี 2558 โรงงานผลิตของเบคโก้ ซึ่งมีพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวานนี้ (วันอังคารที่ 6 มกราคม) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 164 ไร่ (263,000ตารางเมตร) ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชระยอง อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ก่อสร้างด้วยเงินลงทุน100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) โดยภายใน 3 ปี จะผลิตตู้เย็นป้อนตลาด เป็นจำนวนกว่า 500,000 เครื่องต่อปี มร. เลแวนต์ ชาคึโอลู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เซลิก เอเอส ทั่วโลกเจ้าของ แบรนด์เบคโก้ เปิดเผยว่า “เราตั้งเป้าปั้นแบรนด์เบคโก้ให้ประสบความสำเร็จในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเช่นเดียวกับที่เคยปั้นเบคโก้ประสบความสำเร็จเป็นปรากฏการณ์มาแล้วในยุโรป ที่ที่แบรนด์เบคโก้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายบ้านที่ขายดีที่สุดในอังกฤษและเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งพื้นที่ขายดีที่สุดในฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตเร็วที่สุดในเยอรมันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การมีโรงงานผลิตสำหรับภูมิภาคในประเทศไทย ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการสร้างความ สำเร็จในเออีซี” มร. เลแวนต์ กล่าวว่า “90% ของสินค้าที่ผลิตที่โรงงานแห่งนี้จะเป็นสินค้าส่งออก ซึ่งภายใน 3 ปี เราตั้งเป้าส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทยเป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังเกือบ 10 ประเทศ ทั้งฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ สร้างยอดขายในเออีซีและในภูมิภาค คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,000 ล้านบาท)” “ตั้งแต่เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เบคโก้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างดีมาก” มร. เลแวนต์ กล่าว มร. เลแวนต์ เปิดเผยว่า ตู้เย็นและเครื่องซักผ้าเบคโก้ ขายดีติดอันดับ 1 ใน 3 ของตู้เย็นและเครื่องซักผ้าที่ขายดีที่สุดในหลายร้านค้าปลีกหลักๆ ในประเทศไทย รวมถึงที่เพาเวอร์บาย เซ็นทรัล ชิดลม มร. มุสตาฟา วี คอช ประธานกรรมการคอช โฮลดิ้ง หนึ่งใน 350 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นบริษัทแม่ของอาร์เซลิก เอเอส กล่าวว่า “เบคโก้เป็นความสำเร็จระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ไม่รู้จบ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ในยุโรป เป็นผลมาจากความสามารถในการเข้าใจความต้องการของคนในพื้นที่และสามารถตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่งการทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับผู้บริโภคต้องอาศัยองค์กรระดับโลกที่ประกอบไปด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพสูงสุด มีโรงงานผลิตที่มีความยืดหยุ่น ล้ำสมัย มาพร้อมกับขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง โดยการผสมผสานทรัพย์สินที่มีค่าสามองค์ประกอบนี้ ช่วยให้เราสามารถหลอมรวมนวัตกรรมล้ำสมัยเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วจนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ แม้แต่ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการแข่งขันกันสูงที่สุดในโลก อย่างเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ซึ่งเราจะนำแนวทางเดียวกันนี้มาใช้กับตลาดเออีซี” คอช โฮลดิ้ง มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี มีพนักงานมากกว่า 80,000 คน มียอดขายรวมประมาณ 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,100,000 ล้านบาท) มีตัวแทนจำหน่าย 12,000 ราย และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 22 แห่ง โดยเป็นผู้นำทางธุรกิจครอบคลุมหลายประเภทธุรกิจ เช่น ธุรกิจพลังงาน ยานยนต์ และการเงิน รวมไปถึงสินค้าคงทนสำหรับผู้บริโภค มร. มุสตาฟา กล่าวว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกอย่างรวดเร็ว และเราเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับภูมิภาคนี้” มร. มุสตาฟา กล่าวว่า “ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นฐานการผลิตสำหรับภูมิภาค ของเครื่องใช้ ไฟฟ้าภายในบ้านเบคโก้ เพราะศักยภาพของเศรษฐกิจไทย ประเทศไทยมีเครือข่ายอุตสาหกรรมสนับสนุนที่แข็งแกร่ง มีทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศที่ดี และมีสิ่งจูงใจการลงทุนโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และที่สำคัญความเชื่อมั่นในตัวคนไทย” “ด้วยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ช่วยให้เราตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น โดยเราได้ให้ความสำคัญกับการก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ในระดับ “เร่งด่วนพิเศษ” และจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ภายในปลายปีนี้ พร้อมส่งออกสินค้าล็อตแรกต้นปี 2559” มร. มุสตาฟา กล่าว ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทคอชมีโรงงานผลิตอยู่ 14 แห่งทั่วโลก โดยโรงงานในประเทศไทยเป็นโรงงานแห่ง ที่ 15 ซึ่งในจำนวนนี้ มีโรงงานผลิตตู้เย็นที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน และโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อาร์เซลิกติดอันดับ 1 ใน 200 บริษัทที่มียอดการยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกมากที่สุด เบคโก้และแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในเครืออาร์เซลิกมียอดขายรวมกันประมาณ ประมาณ 5,800ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 185,000 ล้านบาท) ในปี 2556 และมีพนักงานรวมกันประมาณ 25,000 คน ตลาดเครื่องซักผ้าและตู้เย็นในประเทศไทย มีมูลค่ารวมกันประมาณ 28,500 ล้านบาท และในภูมิภาคอาเซียน ประมาณการณ์ตลาดเครื่องซักผ้ามีมูลค่าประมาณ 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 52,800 ล้านบาท) มีปริมาณเครื่องซักผ้าอยู่ที่ 6,750,000 เครื่องต่อปี และตลาดตู้เย็นมีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ80,000 ล้านบาท) มีปริมาณตู้เย็นอยู่ที่ 8,600,000 เครื่องต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ