NDR ตั้งเป้ารายได้โต 15% เดินหน้าบุก ตปท.-รับจ้างผลิตเพิ่มขึ้น ลั่นภายใน 3 ปี ผงาด TOP3 ผู้ผลิตยางรถมอเตอร์ไซค์ในไทย

ข่าวยานยนต์ Wednesday February 18, 2015 11:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--IR Network บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เจ้าตลาดยางรถจักรยานยนต์ เปิดแผนธุรกิจปี"58 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% หลังเดินหน้าขยายตลาดส่งออก - OEM เพิ่มขึ้น แถมกำลังการผลิตยางนอกสำหรับรถจักรยานยนต์จะเพิ่มเป็น 3,500,000 เส้น/ปี จาก 2,400,000 เส้น/ปี พร้อมเจรจาออเดอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง หวังผลักดันยอดขายกระฉูด ตั้งเป้าภายใน 3 ปีขึ้นแท่น TOP3 ของอุตสาหกรรมผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศ นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 15% จากปีก่อน เนื่องจากขยายตลาดต่างประเทศ และรับจ้างผลิต (OEM) เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันในปีนี้จะมีการขยายกำลังการผลิตยางนอกสำหรับรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 3,500,000 เส้น/ปี ซึ่งจะเริ่มใช้กำลังการผลิตดังกล่าวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในไตรมาส 1/2558 จากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2,400,000 เส้น/ปี "ที่ผ่านมาเราได้ลงทุนขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปีนี้เรามีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแถบเอเชียใต้ จากเดิมที่ส่งออกไปยังมาเลเซีย ลาว พม่า และฟิลิปปินส์ เพื่อกระจายฐานรายได้และเป็นการกระจายความเสี่ยงโดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 55%" นายชัยสิทธิ์ กล่าว กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ กล่าวอีกว่า NDR ได้วางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศภายใน 3 ปี (2560) ขณะเดียวกันมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของสินค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า สำหรับผลประกอบการในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 792.19 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 857.41 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 46 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 65 ล้านบาท “สาเหตุที่ผลประกอบการในปี 57 ลดลง เพราะกำลังซื้อในประเทศหดตัวลงอย่างมาก ทำให้ยอดขายลดลง และกำลังการผลิตที่ลดลงตาม ทำให้ Economy of scale ลดลงไป ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น ประกอบกับบริษัทมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากเงินกู้ระยะสั้นที่นำมาใช้ขยายกำลังการผลิตยางนอก อย่างไรก็ตาม เรายังมีรายได้จากการส่งออกและลูกค้า OEM จึงช่วยประคองผลประกอบการ ทั้งนี้ เราประเมินว่าในปี 2558 ยอดขายน่าจะกลับมาเติบโตได้จากการขยายตลาดส่งออก และOEM ขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงจากการใช้คืนเงินกู้ระยะสั้นโดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในต้นปี 58” นายชัยสิทธิ์ กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ