กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.25-1,211.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 18,710 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 180 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,530 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 25/02/15)
แนวโน้มวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558
ถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภาไม่ได้บ่งชี้อย่างแน่ชัดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด โดยมีท่าทีระมัดระวังในการส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าถ้อยแถลงของนางเยลเลนแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็บ่งชี้ถึงความกังวลอย่างต่อเนื่องเรื่องค่าจ้างแรงงานที่ระดับต่ำ ทั้งนี้ เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ขึ้นอยู่กับการประชุมในแต่ละครั้ง โดยคณะกรรมการเฟดมองว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มที่ภาวะเศรษฐกิจจะหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยในช่วงการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า ความเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลลง ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินลดช่วงบวกลงเนื่องจากแรงขายดอลลาร์จากความเห็นของนางเยนเลน ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำขยับตัวฟื้นขึ้นมาบ้างหลังจากร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ก่อนการแถลงการณ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำได้แรงหนุนเพิ่มจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นของจีนจากเอชเอสบีซี/มาร์กิต เพิ่มขึ้นมากเกินคาดสู่ระดับ 50.1 ในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว ขณะที่การซื้อขายในตลาดทองำคึกคักอีกครั้งเมื่อตลาดเงินตลาดทุนของจีนเปิดทำการอีกครั้งหลังจากช่วงวันหยุดยาว 7 วันติดต่อกันในเทศกาลตรุษจีนขณะที่นักลงทุนบางรายซื้อทองคำเพิ่ม หลังจากราคาทองคำปรับลง แนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก ราคาอาจมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้านหากยืนไม่ได้แนะนำแบ่งทองคำออกขายเช่นเดิม และหากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอซื้อเมื่อว่าราคาไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,192 หรือ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,215 หรือ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,192 (18,330บาท) 1,185 (18,220บาท) 1,175 (18,070บาท)
แนวต้าน 1,215 (18,750บาท) 1,225 (18,840บาท) 1,234 (18,980บาท)
GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ 1,192 (18,450บาท) 1,185 (18,350บาท) 1,175 (18,190บาท)
แนวต้าน 1,215 (18,810บาท) 1,225 (18,960บาท) 1,234 (19,100บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148