บล.เออีซี คาด SET Index มีโอกาสทดสอบ 1,680 จุด และผลประกอบการบจ.พุ่ง13% ชี้ปัจจัยเสี่ยง “เฟด-อีซีบี-ราคาน้ำมัน” กดดันตลาดหุ้นไทยแนะลงหุ้นกลุ่ม”การแพทย์-ขนส่ง-อิเล็กฯ” ผลตอบแทนสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 26, 2015 11:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--IR Network บล.เออีซี (AEC) มองแนวโน้ม SET Index ในปี”58 มีโอกาสทะยานแตะ 1,680 จุด แนะจับตา3 ปัจจัยเสี่ยง “เฟด-อีซีบี-ราคาน้ำมัน”กดดันบรรยากาศการลงทุน ล็อกเป้าหุ้นเด็ดให้ผลตอบแทนสูงสุด ชู 3 กลุ่มอุตสาหกรรม “การแพทย์-ขนส่ง-อิเล็กทรอนิกส์” ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นในปีนี้ ยกนิ้วให้กลุ่ม”ขนส่ง-กลุ่มบันเทิงและสื่อสิ่งพิมพ์-กลุ่มอสังหาฯ” นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ นักวิเคราะห์กลยุทธ์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (AEC) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2558 อยู่ที่ระดับ 1,680 จุด โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะขยายตัวในระดับ 13% ฟื้นตัวจากปี 2557 ที่ขยายตัวเพียง 1% ขณะที่อัตราผลตอบแทนคาดหวังจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 15.2% มาจาก 2ส่วนได้แก่ 1. ผลตอบแทนจากระดับการปรับขึ้นของดัชนีที่ระดับ 12% และ 2. อัตราเงินปันผลระดับ 3% ส่วนระดับความผันผวนของตลาดหุ้นไทยในระยะ 12 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ระดับ 12% (ความผันผวนในกรอบ200 จุดต่อรอบ) ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2557 เนื่องจาก ความไม่แน่นอนของปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศ รวมถึงผลกระทบของค่าเงินอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง สำหรับปัจจัยเศรษฐกิจ 5 ประการที่ส่งผลต่อภาพการลงทุน ได้แก่ 1.เศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วฟื้นตัวด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน สหรัฐฯมีแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราชะลอตัว และกลุ่มประเทศยุโรปยังอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด 2.ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) คาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรก ในช่วงการประชุมเดือน ก.ย. 58 (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นส่งผลต่อความผันผวนตลาดหุ้นไทย) 3.การประกาศเศรษฐกิจยุโรปจะเป็นลบต่อภาวะการลงทุน แต่การอัดฉีด QE ของ ECB จะเป็นปัจจัยผลักดันตลาดหุ้นทั่วโลก 4.ราคาน้ำมันจะยังทรงตัวในระดับต่ำในครึ่งปีแรก ตามภาวะ Supply ส่วนเกิน แต่จับตา Tension ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะเป็นปัจจัย Rebound ในครึ่งปีหลัง (Range ราคาน้ำมันดิบจะอยู่ระหว่าง US$30-US$80/bbl ไม่ต่ำจน US ลดการผลิต แต่ไม่สูงกว่า Breakevenของประเทศที่ประสิทธิภาพการกลั่นต่ำ) และ 5.เศรษฐกิจไทยปี 2558 มีแนวโน้มที่จะปรับลด คาดว่าอัตราการขยายตัวจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 3.5% โดยครึ่งปีแรก ต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงเป็นเพียงปัจจัยบวกเดียวต่อการขยายตัว อย่างไรก็ตาม สำหรับผลตอบแทนรายอุตสาหกรรมของตลาดหุ้นไทยปี 2557 อุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนสูงได้แก่ กลุ่มธุรกิจการแพทย์ (+51%), กลุ่มขนส่ง (+37%) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (+32%) ในขณะที่กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีให้อัตราผลตอบแทนที่ติดลบ ส่วนอุตสาหกรรม 3 กลุ่มที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นปี 2558 ได้แก่ กลุ่มขนส่ง (สายการบิน)(+300%) กลุ่มบันเทิงและสื่อสิ่งพิมพ์ (Digital TV) (+77%) และกลุ่มอสังหาฯ (+31%) Sector Rating อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มในปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาฯ ในขณะที่แนะนำให้ลงทุนต่ำกว่าตลาดในกลุ่ม พลังงาน, ปิโตรเคมี, และยานยนต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ