BRR สุดแกร่ง ธุรกิจน้ำตาล-โรงไฟฟ้าหนุนกำไรสุทธิทั้งปีพุ่ง 23% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น ด้านผู้บริหารมั่นใจปี 58 เติบโตก้าวกระโดด-ดันแผนรุกพลังงานทดแทนต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 27, 2015 10:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ‘บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์’ หรือ BRR โชว์ผลการดำเนินงานปี57 กำไรพุ่ง 23% หลังผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยปรับตัวสูงขึ้น หนุนผลผลิตน้ำตาลทรายเพิ่มและช่วยต้นทุนผลิตน้ำตาลทรายต่อหน่วยลดลง แถมกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนจากโรงไฟฟ้าพลังงาน ชีวมวลโรงที่ 1 รับรู้เต็มปี ดันรายได้ทั้งปี 3,328 ล้านบาท ด้านบอร์ดไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น ขณะที่ผู้บริหาร BRR มั่นใจปี 2558 จะเป็นปีที่ผลการดำเนินงานสุดแกร่งเติบโตได้ดีทั้งในแง่รายได้และกำไร หลังผลผลิตน้ำตาลทรายรอบปี 57/58 และกากน้ำตาลมีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนจะเป็นแรงหนุนต่อผลกำไรที่สูงขึ้น จากการปรับเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าเป็นแบบ Feed-in-Tariff ดันราคาขายไฟต่อหน่วยเพิ่ม นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลทรายขาวสีรำส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ และนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายไปต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 4/57 (ตุลาคม-ธันวาคม 2557) บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการจำหน่ายน้ำตาลและกากน้ำตาล 737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/56 ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 91 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 88 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ได้ส่งผลต่อการเติบโตที่ดีของผลการดำเนินงานรวมทั้งปี 2557 (มกราคม-ธันวาคม) ซึ่งบริษัทฯ สามารถทำรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาลและกากน้ำตาล 3,328 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิของธุรกิจรวมทำได้ 241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 196 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานในไตมาส 4/57 และภาพรวมของปี 2557 ที่สามารถเติบโตได้โดดเด่นทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิมาจากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายที่ดี โดยสามารถผลิตน้ำตาลทรายได้สูงถึง 118 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมทั้งประเทศ ส่งผลให้ BRR สามารถผลิตน้ำตาลทรายเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าได้มากถึง 208,860 ตัน ขณะเดียวกันยังช่วยให้ต้นทุนการผลิตน้ำตาลทรายลดลงและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ดียิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจน้ำตาลทรายได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจพลังงานทดแทนในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงาน ชีวมวลแห่งที่ 1 ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวน 8 เมกะวัตต์ สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจเต็มปี รวมถึงยังนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปชำระหนี้คืนทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง จึงเป็นแรงหนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย “ปี 2557 ถือเป็นปีที่ BRR สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้เป็นอย่างดีทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่มีประสิทธิภาพในด้านการบริหารจัดการที่ดีเพื่อให้ผลผลิตน้ำตาลทรายสูงที่สุด รวมถึงยังนำผลพลอยได้ไปต่อยอดผลักดันธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อช่วยทำให้กำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย” นายอนันต์ กล่าว ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบการดำเนินงานปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท หรือคิดเป็น 56% ของกำไรสุทธิ โดยบริษัทฯ กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 นี้ ประธานกรรมการบริหาร BRR กล่าวว่า สำหรับปี 2558 บริษัทฯ มองว่าเป็นปีที่มีผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป เนื่องจากบริษัทฯ ได้เพิ่มพื้นที่ส่งเสริมการเพาะปลูกอ้อยเพื่อผลักดันรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำตาลทรายและกากน้ำตาลได้มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้จะรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบได้ 2.2 ล้านตันอ้อย ผลิตเป็นน้ำตาลทรายได้ประมาณ 2.5 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ผลิตได้ 2.08 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนตัน และมีกากน้ำตาลเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเพิ่มเป็น 80,000 ตันจากปีก่อนที่มีปริมาณอยู่ที่ 70,000 ตัน ขณะเดียวกัน ยังสามารถนำชานอ้อยซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลทรายมาช่วยสร้างความมั่นคงทางวัตถุดิบให้แก่ธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 9.9 เมกะวัตต์ โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.จำนวน 8 เมกะวัตต์ ซึ่งภาครัฐได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการซื้อรับขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลมาเป็นแบบ Feed-in-Tariff หรือ FiT มีผลให้ราคาจำหน่ายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมหน่วยละ 3.60 บาท เป็น 4.53 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ ด้วยนโยบายของภาครัฐดังกล่าว ส่งผลดีต่อธุรกิจพลังงานทดแทนของ BRR ต่อขีดความสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนในปี 2558 ที่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 450 ล้านบาท โดยดันสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 10% จากเดิมที่มี 5% ของผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ และยังทำให้สัดส่วนกำไรเพิ่มเป็นกว่า 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 20% “ปีนี้จะเป็นปีที่ BRR เติบโตได้แบบก้าวกระโดดทั้งในแง่ของรายได้และกำไร ซึ่งมาจากฐานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่เรามีผลผลิตน้ำตาลทรายที่มากขึ้นและยังสามารถสร้างเม็ดเงินรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจพลังงานทดแทนอีกด้วย ซึ่งจะทำให้หุ้น BRR เป็นหุ้น Growth Stock ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน” นายอนันต์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ