กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--IR network
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา เอคิว เอสเตท ได้เดินหน้าปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจนสามารถล้างหนี้สะสมซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินการอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ไตรมาส ที่ 1 ปี 2558 ดังนั้นในปีนี้ เอคิว เอสเตท จึงเดินหน้าวางแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆสู่ตลาด ณ เบื้องต้นอยู่ที่ 9 โครงการใหม่ รวมมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท
ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว หลังจากที่มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ มูลค่า 1,850 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปจัดซื้อที่ดินเพิ่ม 2 แปลง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ และพัฒนาโครงการเดิมที่มีอยู่ พร้อมกับดำเนินการล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด AQ เตรียมพร้อมจ่ายปันผลหากบริษัทมีกำไรในอนาคต ซึ่งในปีนี้เราวางแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ซึ่งจะมีทั้งที่พัฒนาบนที่ดินเดิมที่บริษัทมีอยู่ และบนที่ดินใหม่ที่โดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งและรูปแบบที่แตกต่างจากตลาด รวมแล้วประมาณ 1,600 ยูนิต นอกจากนี้ เรายังวางแผนที่จะขยายการพัฒนาโครงการไปยังหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญๆ ในต่างจังหวัดซึ่งมองไว้ในภาคตะวันออกเป็นหลัก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนารายละเอียดของโครงการ นอกจากพัฒนาโครงการของบริษัทเองแล้ว ปีนี้ AQ ยังกลับมารับจ้างบริหารโครงการให้กับ รายอื่นด้วย จากทีมงานที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการมากกว่า 20 ปี หลังจากที่บริษัทได้ทำการเพิ่มทุนแล้ว ยังสำรองเงินจำนวนหนึ่ง ไว้ลงทุนในโครงการที่ติดปัญหาเรื่องการเงิน แต่ยังมีศักยภาพสูงในด้านการตลาดมาดำเนินการบริหารจัดการ โดยบริษัทจะดำเนินการจัดการเรื่องการเงิน และเพิ่มทุนในโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อไปดำเนินการแก้ไขสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด ทำการ Rebrand สินค้าขายออกสู่ตลาด ซึ่ง AQ จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินลงทุน , ค่าบริหารโครงการ, ค่า Loyalty Fee, ค่าการตลาดและการขาย ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของโครงการก็จะได้รับผลตอบแทน ในรูปแบบที่ต้องการเช่นกัน นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กล่าว
ด้านโครงการที่พัฒนาอยู่เดิมก่อนปรับโครงสร้างองค์กรนั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า" ปัจจุบันโครงการเดิมที่ยังดำเนินการขายอยู่ ณ ปัจจุบันเป็นโครงการบ้าน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ 15 GATES, โครงการ กฤษดา ลากูน ปิ่นเกล้า-พระราม 5, โครงการกฤษดา เพรสทีจ ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล สาย 3, โครงการกฤษดา แกรนด์ พาร์ค ติดถนนใหญ่ พหลโยธิน-รังสิต และ โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ โครงการ เอสเตส รัตนาธิเบศร์ , โครงการ Garden อโศก -พระราม9 และ โครงการ The Kris รัชดา17 โดยหลังจากที่ได้ปรับเรื่องการออกแบบและเพิ่มระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการจัดการเรื่องการบริหารโครงการซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท ทำให้ในปีที่ผ่านมามีจำนวนลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในด้านการออกแบบโครงการที่อยู่อาศัยของทีม เอคิว เอสเตท เป็นอย่างดี"
“ปัจจุบันนอกจากความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งของโครงการแล้ว ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับความสวยงามและลงตัวด้านการออกแบบเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการดูแลโครงการการหลังการขาย ซึ่ง AQ ได้ให้ความสำคัญในปัจจัยดังกล่าวอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ตลอดปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมเอสเตส บนถนนรัตนาธิเบศร์ที่มีเพดานที่สูงโปร่งภายใต้ดีไซน์ที่โมเดิร์น ซึ่งถือเป็นการนำเสนอดีไซน์และฟังก์ชั่นใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน สู่ตลาดในย่านดังกล่าว หรือการนำเสนอบ้านเดี่ยวโครงการ 15 GATES ในย่านเอกมัยรามอินทราที่ได้ร่วมมือกับสถาปนิกระดับนานาชาติ ในการออกแบบจนเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าระดับ ไฮเอนด์ รวมถึงจุดเด่นของบริษัท ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ซึ่งนอกจากที่อยู่อาศัยของท่านจะสวยงามและอยู่สบายแล้ว ยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ค่อยๆ สร้างคาแรกเตอร์ของ แบรนด์ให้ชัดเจนขึ้นในความคิดของลูกค้า โดยในปีนี้ก็เช่นกัน เราจะสานต่อความโดดเด่นด้านต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมกับทั้ง 9 โครงการใหม่ รวม 8,000 ลบ. ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ได้แก่
1. โครงการ รังสิต บิซ พาร์ค อาคารสำนักงาน+เพ้นท์เฮ้าส์ ขนาดที่ดินใหญ่ถึง 80 ตารางวา 3 ชั้น ติดถนนใหญ่ พหลโยธิน- รังสิต มูลค่าโครงการ ประมาณ 270 ล้านบาท
2. โครงการ เอคิว เอสเตส อโศก คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น เพดาน สูง 3.60 เมตร มูลค่าโครงการ ประมาณ 1,500 ล้านบาท
3. โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ใกล้สวนหลวง ร.9 มูลค่าโครงการ ประมาณ 1,200 ล้านบาท.
4. โครงการทาวน์โฮมรูปแบบใหม่ในเมือง สวนสยาม มูลค่าโครงการ ประมาณ 320 ล้านบาท.
5. โครงการอสังหาฯ ขนาดใหญ่กว่า 117 ไร่ มีทั้งบ้าน,รีเทล, คอมมูนิตี้ ตรงข้ามเซ็นทรัล รังสิต มูลค่าโครงการ ประมาณ 2,750 ล้านบาท
6. โครงการบ้าน มูลค่าโครงการ ประมาณ 1,000 ล้านบาท (จังหวัด ชลบุรี ใกล้อมตะนคร)
7. โครงการบ้านติดถนนใหญ่ พหลโยธิน-รังสิต มูลค่าโครงการ 360 ล้านบาท
8. โครงการภูรีศาลา ภูเก็ต Pool Villa หรู อยู่บริเวณหาดสุรินทร์ บางเทา มูลค่าโครงการ 330 ล้านบาท
9. โครงการบ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์น กลางเมือง ถนนอโศก -พระราม9 มูลค่าโครงการ ประมาณ 490 ล้านบาท
“เมื่อรวมมูลค่าโครงการเดิมและมูลค่าโครงการใหม่แล้วจะทำให้มีมูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขาย ปี 2558 มูลค่า 2,500 ลบ. และเชื่อมั่นว่าภาพรวมธุรกิจของ เอคิว เอสเตท ในปี 2558 จะได้รับการตอบรับที่ดี และประสบความสำเร็จตามเป้าที่คาดไว้ ” นายยงยุทธกล่าวสรุป