กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--studiomango
โอกาสที่จะได้รับรู้ถึงความสามารถและศักยภาพของผู้หญิง #MakeItHappen
แม้ทุกวันนี้เราจะอยู่ในโลกสมัยใหม่ที่หญิงชายร่วมสมัยต่างออกมาทำงานนอกบ้านอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่และมีศักดิ์ศรีอยู่เจนจนตา แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ทุกคนและไม่ใช่ในทุกสังคม ในบางที่ผู้หญิงยังถูกเลือกปฏิบัติและไม่เท่าเทียม และส่วนใหญ่ผู้หญิงหลายคนยังไม่สามารถดึงศักยภาพของตัวเองมาใช้อย่างเต็มที่ เพียงเพราะเธอเองยังไม่รู้ว่าตนมีศักยภาพเพียงไร
ในวาระวันสตรีสากล (International Women’s Day) 8 มีนาคม 2015 นี้ พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ จังหวัดเชียงใหม่ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการดึงศักยภาพผู้หญิงออกมาให้ประจักษ์ในงานสัปดาห์แห่งสตรีสากล International Women’s Week โดยมีนิทรรศการ “Women who changed the world” หรือ วีรสตรีผู้เปลี่ยนวิถีโลก ในวันที่ 28กุมภาพันธ์ –1มีนาคม และ 7 - 8 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.-21.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับองค์กรสหประชาชาติที่ได้เน้นประเด็น “การเพิ่มศักยภาพผู้หญิงคือเพิ่มการศักยภาพแห่งมนุษยชาติ นึกภาพดูสิ!” หรือ Empowering Women, Empowering Humanity: Picture it! และชวนชาวโซเชียลมีเดียและผู้ที่มาร่วมงานติดแฮชแท็ก #MakeItHappen เพื่อร่วมรณรงค์ทำมันให้เป็นจริง!
หากย้อนดูพัฒนาการการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของสตรี จะเห็นว่ามีมาก่อนหน้าที่จะมีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นปรากฏการณ์ในโลกตะวันตกจนเป็นเกิดวันสตรีสากลด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างในสังคมไทยเองก็มีเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงการลุกขึ้นมาต่อสู้ของผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่น อำแดงเหมือน หญิงไพร่ที่เรียกร้องสิทธิการเลือกคู่โดยปฏิเสธการคลุมถุงชน และอำแดงจันผู้ลุกขึ้นมาคัดค้านกฎหมายที่ให้ผู้ชายขายเมียได้ พวกเธอเป็นผู้ที่ทำให้คำว่า หญิงคือควาย ชายคือคน ในกฎหมายไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง พิสูจน์ว่าแม้ในสังคมวัฒนธรรมที่ไม่เอื้ออำนวยให้ผู้หญิงมีสิทธิเสรีภาพทั้งยังถูกกดขี่ เมื่อใดที่พวกเธอเริ่มเห็นคุณค่าและศักยภาพของตัวเอง กล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาปกป้องยืนยันศักดิ์ศรีของตน เธอก็อาจจะมีโอกาสได้มาซึ่งชัยชนะเช่นกัน
จุดกำเนิดของวันสตรีสากลนั้นเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปและอเมริกา การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมทำให้ชนบทล่มสลาย ผู้หญิงจำนวนมากต้องเข้ามาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และต้องทำงานหนัก ถูกกดขี่แรงงาน โดนไล่ออกเมื่อตั้งครรภ์ ได้รับค่าแรงน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากถูกมองว่าเป็นเพียงแรงงานสำรอง จนมาถึงช่วงปี 1900 อเมริกาเกิดเหตุความวุ่นวายทางการเมือง ผู้หญิงเริ่มเกาะกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เท่าเทียมทางเพศ ในที่สุด คลาร่า เซทคิน (Clare Zetkin) ผู้นำกรรมกรหญิงโรงงานทอผ้าผู้ถูกยกย่องว่าเป็นผู้ให้กำเนิดวันสตรีสากล ก็ได้พาแรงงานหญิงลุกขึ้นเดินขบวนนัดหยุดงานในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1907 โดยเรียกร้องให้นายจ้างลดเวลาทำงานจากวันละ 12-15 ชั่วโมง ให้เหลือวันละ 8 ชั่วโมง ให้ปรับปรุงระบบสวัสดิการ และให้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้ ซึ่งข้อเรียกร้องของพวกเธอมาประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1910 ในการประชุมประชุมสังคมนิยมสากลในเมืองโคเปนเฮเกน ที่มีตัวแทนสตรีจาก 17 ประเทศมีมติให้ประกาศรับรองข้อเรียกร้องต่างๆ รวมทั้งประกาศให้มีวันสตรีสากล
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1911 เป็นต้นมา วันสตรีสากลจึงถูกจัดขึ้นในหลายประเทศ มีหญิงชายทั่วโลกเข้าร่วมชุมนุมเรียกร้องสิทธิสตรีและสิทธิการทำงานต่างๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยองค์กรสหประชาชาติเองก็ให้การสนับสนุน รวมทั้งได้กำหนดให้ปี ค.ศ. 1975 เป็น “ปีสตรีสากล” และให้มีการจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ทั่วโลกในทุกปี เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของผู้หญิง สะท้อนความสำคัญของการต่อสู้ผลักดันเพื่อรับรองว่าผู้หญิงจะมีสิทธิเสมอภาค ได้รับการยอมรับ และไม่มีการเลือกปฏิบัติในทุกภาคส่วนของสังคม
ในประเทศไทยเรานั้น สิทธิและความเสมอภาคของผู้หญิงถูกตราไว้ตั้งแต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2475 แม้ไม่ต้องเรียกร้องสิทธิการเลือกตั้งเหมือนผู้หญิงในหลายประเทศ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว สิทธิ ความเท่าเทียมหลายๆ อย่างที่เราได้รับมาทุกวันนี้ ทั้งค่าแรง ความเสมอภาคบางอย่างในกฎหมาย ตำแหน่งหน้าที่ สิทธิการลาคลอด การคุ้มครองการค้าหญิงและเด็ก และบทบาททางการเมือง ล้วนไม่ได้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่เกิดจากการต่อสู้ เรียกร้อง และยืนยันในสิทธิอันหมายถึงคุณค่าของผู้หญิงเอง ซึ่งต้องเริ่มต้นจากตัวผู้หญิงเองก่อนเท่านั้นถึงจะผลักดันสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จ
ทว่าในความเป็นจริง ทุกวันนี้ในสังคมไทย เพื่อนหญิงอีกหลายต่อหลายคนของเรายังประสบปัญหาที่ต้องร่วมมือกันรณรงค์ต่อสู้ทั้งในประเด็น ท้องไม่พร้อม ความรุนแรงในครอบครัว ตำแหน่งการงาน การคุกคามทางเพศ การส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาศักยภาพ การทำงานที่มีอคติทางเพศ และยังไม่ได้รับความเท่าเทียมในอีกหลายๆ เรื่อง วันสตรีสากลในปีนี้จึงเป็นโอกาสอีกครั้งที่พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ จังหวัดเชียงใหม่จะร่วมยืนยันถึงศักยภาพของผู้หญิงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความเท่าเทียมที่จะเกิดขึ้นในงานสัปดาห์แห่งสตรีสากล International Women’s Week ด้วยนิทรรศการ “Women who changed the world” หรือวีรสตรีผู้เปลี่ยนวิถีโลก อาทิ ออง ซา ซูจี วีรสตรีเจ้าของรางวัลโนเบลจากพม่า, แม่ชีเทเรซ่าแม่พระของคนยาก, โคโค่ ชาแนล ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นของโลก, พระราชชายาเจ้าดารารัศมี-สตรีผู้เชื่อมโยงแผ่นดินล้านนาและสยามประเทศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตราบเท่าทุกวันนี้ และสตรีท่านอื่นๆ ร่วม 10 ท่าน วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม และ 7 - 8 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.-21.00 น. ณ บริเวณลานกิจกรรม A พรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่
เพราะศักยภาพผู้หญิงคือศักยภาพที่สร้างมนุษยชาติ และเราจะร่วมกันทำมันให้เป็นจริงอีกครั้ง #MakeItHappen