ปตท. เผยความพร้อมแผนจัดหาเชื้อเพลิงรองรับสถานการณ์แหล่งก๊าซซ่อมบำรุงประจำปี

ข่าวยานยนต์ Friday March 6, 2015 09:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--ปตท. นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้แหล่งก๊าซธรรมชาติจะมีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปีของผู้ผลิตรวม 4 แหล่ง ปตท. ได้เตรียมวางแผนการจัดสรรเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าเพื่อรองรับสถานการณ์ พร้อมทั้งรายงานรัฐและหน่วยงานงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางร่วมกันเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งยังได้เตรียมแผนเชิงรุกสำหรับสถานีบริการเอ็นจีวี เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคทั่วประเทศ และลดผลกระทบจากสถานการณ์ซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซในภาคใต้อีกด้วย ขออภัยผู้บริโภคทุกท่านล่วงหน้า หากมีความไม่สะดวกใดๆ โดย ปตท. จะพยายามบริหารสถานการณ์อย่างดีที่สุด สำหรับการหยุดซ่อมบำรุงของแหล่งก๊าซธรรมชาติในสหภาพเมียนม่าร์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักในภาคตะวันตกนั้น ปตท. ได้ประสานผู้ผลิตเพื่อขอให้ดำเนินการในช่วงเทศกาลสงกรานต์เนื่องจากเป็นช่วงที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศลดลง จากการหารือร่วมกันล่าสุด การซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ยาดานาและแหล่งก๊าซฯ เยตากุน จะดำเนินการพร้อมกันในระหว่างวันที่ 10-19 เมษายน 2558 เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับแท่นผลิต และเนื่องจากค่าความร้อนของก๊าซธรรมชาติจาก 2 แหล่งดังกล่าวมีความแตกต่างกันมาก จึงจำเป็นต้องนำก๊าซจากทั้ง 2 แหล่งมาผสมกันก่อนจ่ายให้กับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติของไทย เพื่อให้มีค่าความร้อนและคุณภาพก๊าซตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เมื่อแหล่งก๊าซฯ ยาดานา หรือแหล่งก๊าซฯ เยตากุนแห่งใดแห่งหนึ่งหยุดการผลิต ปตท. จำเป็นต้องหยุดการรับก๊าซธรรมชาติจากพม่าทั้งหมด ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ ขาดจากระบบรวม 1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในขณะที่ การซ่อมบำรุงประจำปีของแหล่งก๊าซฯ ซอติก้า จะอยู่ระหว่างวันที่ 20-27 เมษายน 2558 เพื่อไม่ให้เวลาการหยุดซ่อมซ้ำซ้อนกับการปิดซ่อมแหล่งก๊าซฯ ยาดานาและแหล่งก๊าซฯ เยตากุน ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ ขาดจากระบบรวม 430 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยช่วงระยะเวลาดังกล่าว ปตท. ได้จัดเตรียมเรียกก๊าซธรรมชาติในท่อและจากฝั่งตะวันออกมาสำรอง นอกจากนี้ ปตท. ได้เตรียมจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าราชบุรี บางปะกง พระนครใต้ และผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ ประกอบด้วย น้ำมันเตาประมาณ 128 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซลประมาณ 56 ล้านลิตร ซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อสถานการณ์ ในส่วนของ แหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย–มาเลเซีย (เจดีเอ–เอ 18) จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ 2 ช่วง คือในช่วงเดือนมิถุนายน และในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน เพื่อช่วยรักษาระดับความสามารถในการส่งก๊าซฯ โดย ปตท. ได้จัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้ากระบี่ ประกอบด้วย น้ำมันเตาประมาณ 19 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซลประมาณ 39 ล้านลิตร ซึ่งการหยุดซ่อมบำรุงของแหล่งก๊าซฯ เจดีเอ ในช่วงเดือนกันยายน มีผลกระทบต่อการให้บริการเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง 13 แห่ง ประกอบด้วย จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา (ปริมาณการใช้ก๊าซเอ็นจีวีรวมอยู่ที่ประมาณ 190 ตันต่อวัน) เนื่องจากสถานีแนวท่อส่งก๊าซฯ และสถานีจ่ายก๊าซหลัก อ.จะนะ จ.สงขลา ไม่สามารถผลิตก๊าซเอ็นจีวีเพื่อจ่ายไปยังสถานีบริการเอ็นจีวีได้ โดย ปตท. ได้เตรียมแผนรองรับเพื่อบรรเทาปัญหาด้วยการขนส่งก๊าซเอ็นจีวีจากสถานีจ่ายก๊าซหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มาให้บริการทดแทนรวมทั้งจะสำรองก๊าซเอ็นจีวีล่วงหน้าจากสถานีก๊าซธรรมชาติหลักจะนะ จ. สงขลา ไว้ในปริมาณ 50 ตันต่อวันด้วย ทั้งนี้ ในช่วงปลายปียังมีการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ สินภูฮ่อม จ.อุดรธานี จำเป็นต้องหยุดการจ่ายก๊าซเอ็นจีวี ณ สถานีจ่ายก๊าซหลัก อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีให้แก่สถานีบริการเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย ปตท. อยู่ระหว่างการจัดทำแผนรองรับเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการหยุดจ่ายก๊าซฯ ดังกล่าว “ปตท. ได้เตรียมแผนงานและความพร้อมในการจัดหาพลังงานสำรองเพื่อรับมือกับสถานการณ์ซ่อมบำรุงประจำปี 2558 เพื่อให้ผู้ใช้พลังงานและผู้ใช้เอ็นจีวีได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ขอให้ผู้บริโภคโปรดเข้าใจถึงความจำเป็นและความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ซึ่ง ปตท. ต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านด้วย สิ่งสำคัญที่ ปตท. ตระหนักถึงเสมอคือการพัฒนาคุณภาพและการให้บริการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายในทุกด้านและมีพลังงานใช้เพียงพอต่อความต้องการ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ซ่อมบำรุงดังกล่าวอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวก ปตท.ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้” คุณชาครีย์ กล่าวเสริมในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ