กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--สปช.อุบลราชธานี
ชาวอำเภอวารินชำราบวอนแก้ปัญหาออกสปก.ในที่เศรษฐกิจ น้ำท่วม น้ำเสีย ฝันเป็นเมืองเกษตรปลอดสาร ปลอดขยะใน 20 ปี
สมาชิกสภาปฏิรูปฯอุบลราชธานี ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชนเพื่อการปฏิรูปที่อ.วารินชำราบ พบประชาชนต้องการให้เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ น้ำท่วมซ้ำซาก การจัดการน้ำเสีย เสนอขยายโรงพยาบาลจังหวัดย้ายสถานีตำรวจ
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2558 ที่ห้องโสตทัศนศึกษา โรงเรียนวารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ จ.อุบลราชธานี (สปช.อุบลราชธานี) ลงพื้นที่จัดเวทีต่างอำเภอเป็นครั้งที่ห้า มีผู้เข้าร่วมประมาณ 120 คน ผลการประชุมพบว่าชาวอำเภอวารินชำราบมีความสนใจในประเด็นปฏิรูปด้านการปกครองท้องถิ่นมากที่สุด ตามมาด้วยปฏิรูปทางสังคม ชุมชน เด็กเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส , ด้านการเมือง , ด้านกฎหมาย และระบบสาธารณสุข ตามลำดับ
ชาวอำเภอเขื่องในมีความฝันอยากเห็นอำเภอตนเองในอีก 20 ปีข้างหน้า เป็นเมืองทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ , ปลอดขยะ ส่วนระดับจังหวัดอีก 20 ปีข้างหน้า อยากเห็นอุบลราชธานีมีแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ รถไฟความเร็วสูง และอยากเห็นการขยายพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์โดยย้ายสถานีตำรวจไปไว้รอบนอก
ด้านปัญหาในพื้นที่ที่ต้องเร่งแก้ไขคือ การออกเอกสารสิทธิ์สปก.ในพื้นที่เศรษฐกิจ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ถ้าเป็นพื้นที่การเกษตรก็ไม่เป็นไร แต่เป็นพื้นที่ค้าขายทำมาหากินของชาวบ้าน เมื่อไม่ออกเป็นโฉนด ทำให้ไม่สามารถแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน กู้ธนาคารก็ไม่ได้ จึงอยากให้ทางการเร่งออกเป็นโฉนด นอกจากนั้นยังมีปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ และปัญหาการจัดการน้ำเสีย
สมาชิกสภาปฏิรูปจังหวัดอุบลราชธานีได้วางแผนในการลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนทั้ง 25 อำเภอ โดยกำหนดเวทีระดับอำเภอระยะแรก 10 อำเภอ เวทีระดับจังหวัด 1 ครั้ง ครั้งต่อไปจะเป็นเวทีระดับอำเภอที่อำเภอบุณฑริก ในวันที่ 11 มีนาคม 2558 ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ทางเวปไซต์ www.เสียงประชาชนอุบลราชธานี.com หรือหมายเลขโทรศัพท์ประจำศูนย์ประสานงานสปช.อุบลฯ 091 470 5921
อนึ่งการจัดเวทีครั้งนี้คณะกรรมาธิกาวิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนสภาปฏิรูปแห่งขาติ ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ประจำจังหวัดอุบลราชธานี จัดเวทีเพื่อเปิดโอกาสให้ส่วนราชการ องค์กรเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็น เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย