กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 30 มีนาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,187.80-1,199.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,450 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,610 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.34 น.ของวันที่ 30/03/15)
แนวโน้มวันที่ 31 มีนาคม 2558
ความไม่แน่นอนเรื่องกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำ โดยปัจจัยนี้สร้างความผันผวนในตลาดและเพิ่มแรงกดดันต่อทิศทางราคารทองคำ ซึ่งนักลงทุนได้มุ่งความสนใจไปยังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมากยิ่งขึ้น เพราะตัวเลขเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากนางเจเน็ท เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะเริ่มปรับตัวขึ้นในปีนี้ แต่ก็ย้ำว่า อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ และกล่าวด้วยว่า การคุมเข้มนโยบาย "อาจจะเร็วขึ้น, ช้าลง, หยุด หรือแม้แต่เปลี่ยนทิศทาง" โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอาจจะไม่แกว่งตัวผันผวนมากนักในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนมีนาคมของสหรัฐ ที่อาจจะกระทบการคาดการณ์เรื่องการเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานอาจจะทำให้การคาดการณ์นี้เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยเฉพาะหลังจากที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งต่อเดือนเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมีนาคมใน วันศุกร์ที่ 3 เมษายน แต่ตลาดหุ้นและตลาดทองคำของสหรัฐจะปิดทำการในวันนั้นเนื่องในวัน Good Friday ทั้งนี้ วายแอลจี ยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ ซึ่งบริเวณ 1,205 หรือ 1,212 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,180 หรือ 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,180 หรือ 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,205 หรือ 1,212 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน พร้อมวางแผนการลงทุนโดยกำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรให้ชัดเจน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,180 (18,150บาท) 1,173 (18,040บาท) 1,165 (17,920บาท)
แนวต้าน 1,205 (18,540บาท) 1,212 (18,650บาท) 1,220 (18,770บาท)
GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ 1,180 (18,320บาท) 1,173 (18,220บาท) 1,165 (18,090บาท)
แนวต้าน 1,205 (18,710บาท) 1,212 (18,820บาท) 1,220 (18,940บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148