LIT ได้เวลาขยับปีก!หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวออกหุ้นกู้ 500 ลบ. เตรียมจ่ายเงินปันผล0.12บาท/หุ้น รับตังค์24เม.ย.นี้ ส่งซิกผลงานQ1/58 แจ่ม! มั่นใจรายได้-กำไร ปี”58 ขยายตัว 30% ตามเป้า พร้อมลุย SME ด้วยสินเชื่อแฟคตอริ่ง หรือรับซื้อบิล

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 10, 2015 15:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--IR network บมจ.ลีซ อิท (LIT) ได้เวลาขยับปีก หลังผู้ถือหุ้นอนุมติแผนออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ตุนสภาพคล่องพร้อมปล่อยกู้ ด้านผู้บริหาร“สมพล เอกธีรจิตต์”ส่งซิกผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 ขยายตัวต่อเนื่อง มั่นใจรายได้-กำไร ปี”58 เติบโต 30% ตามเป้า พอร์สินเชื่อรวมทะลุ 1,000 ล้านบาท ได้แน่นอน เนื่องจากความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีมีสูง หลังแบงก์คุมเข้มปล่อยกู้ เหตุไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจ เผยเตรียมออกหุ้นกู้ภายในไตรมาส 2/58 ลดต้นทุนดอกเบี้ย หลังแบงก์ชาติหั่นดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.12 บาท/หุ้น จากงวด “ผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2557โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เม.ย.2558 ขณะเดียวกันยังอนุมัติแผนการออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อเตรียมสภาพคล่องสำหรับการปล่อยสินเชื่อ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อรวมแตะที่ระดับ 1,000 ล้านบาท “การที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท จะทำให้การทำงานของบริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น และต้นทุนในการดำเนินธุรกิจถูกลง หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศลดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2% เหลือ 1.75% ยิ่งทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทในปีนี้ปรับตัวลดลงด้วย”นายสมพลกล่าว นายสมพล กล่าวว่า คาดว่าการออกหุ้นกู้จะสามารถดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 2/58 เพื่อรองรับแผนการขยายสินเชื่อไปสู่กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น หลังจากสถาบันการเงินคุมเข้มปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากไม่มั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มส่งสัญญาณไม่ดีมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการลงทุนของภาคเอกชนที่ปรับตัวลดลง ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ และมีกระบวนการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้รักษาระดับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้อยู่ในระดับต่ำ โดยปัจจุบันเอ็นพีแอลอยู่ที่ระดับ 2% เท่านั้นเมื่อเทียบกับสินเชื่อรวม นายสมพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทจะให้วงเงินสินเชื่อแฟคตอริ่งเอสเอ็มอีรายใหม่อยู่ในระดับวงเงินประมาณ 100 ล้านบาท/เดือนเท่านั้น แต่ในปีนี้มีแผนเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 200 ล้านบาท เพราะความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มีสูง เนื่องจากสถาบันการเงินยังไม่กล้าปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ ล่าสุดใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา ต้องถือว่าผลงานเข้าเป้าตามที่วางไว้โดยได้เพิ่มวงเงินให้สินเชื่อแฟคตอริ่งลูกค้าเอสเอ็มอีรายใหม่ได้มากถึง 245 ล้านบาท “ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/58 สินเชื่อยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยโปรดักท์การเงินที่เป็นพระเอกของ ลีซ อิท ยังคงเป็นสินเชื่อแฟคตอริ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่ม SME เป็นอย่างมาก และทำให้เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานโดยรวมทั้งปี รายได้และกำไรจะเติบโต 30% ตามเป้าหมาย” นายสมพลกล่าวในที่สุด ที่ผ่านมา “ลีส อิท” ได้มีการปรับปรุงการบริหารงาน และปรับพอร์ตลูกหนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวเชิงรุก โดยได้เพิ่มพอร์ตลูกหนี้ภาคเอกชนจากเดิมในสัดส่วน 20% มาเป็น 30% ในขณะที่ยังคงให้น้ำหนักหนี้ภาครัฐในสัดส่วนที่สูงอยู่เป็น 70% โดยโปรดักท์ทางการเงินที่นำเสนอลูกค้ามี 4 ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ประกอบด้วย สินเชื่อสัญญาเช่าทางการเงิน (ลิสซิ่ง) สินเชื่อเช่าซื้อ (ไฮ-เพอร์เชส) สินเชื่อแฟคตอริ่ง หรือการรับซื้อลูกหนี้ทางการค้า และสินเชื่อประเภทเทรดและโปรเจ็กต์ไฟแนนซ์ รวมถึงสินเชื่อเพื่อการออกหนังสือค้ำประกันเข้าประมูลงานที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายครบวงจร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ