กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย ประกาศผลประกอบในไตรมาสที่ 1/2558 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2557 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรอง การด้อยค่าและภาษีเงินได้จำนวน 13,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 483 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.61 มีกำไรสุทธิ 8,154 ล้านบาท ลดลง 323 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.81 โดยมีกำไรในส่วนที่เป็นของธนาคาร 7,864 ล้านบาท ลดลง 434 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.23 จากไตรมาส 1/2557
ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 19,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.90 มีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 7,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 931 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.79 โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,953,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 992 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.05 โดยเพิ่มขึ้นจากลูกค้าภาคเอกชนและรายย่อย และมียอดเงินฝาก 2,196,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45,298 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเงินฝากประเภทออมทรัพย์
ในไตรมาส 1/2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 68,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,568 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.38 ส่วนใหญ่มาจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อย ซึ่งค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีนโยบายในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพในระดับที่เหมาะสม โดย NPLs Ratio (net) เท่ากับร้อยละ 1.52
ธนาคารและบริษัทย่อยได้กันสำรองจำนวน 3,724 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับฐานสินเชื่อ และสร้างความแข็งแกร่งของระดับเงินสำรอง ตามเกณฑ์ความระมัดระวังและรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ธนาคารมีเงินกองทุนรวมจำนวน 273,044 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.15 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง ซึ่งคำนวณตามหลักเกณฑ์ Basel III ของธนาคารแห่งประเทศไทย