กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 23 เมษายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,184.60-1,190.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,330 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,480 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.56 น.ของวันที่ 23/04/15)
แนวโน้มวันที่ 24 เมษายน 2558
กิจกรรมภาคการผลิตของจีนหดตัวลงในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนเมษายน สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงตกต่ำลงถึงแม้ธนาคารกลางจีนผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอย่างแข็งกร้าวยิ่งขึ้น ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นของจีนลดลงในเดือนเมษายนและหดตัวลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ได้ลดความหวังว่าเศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวขึ้นและได้กดดันราคาทองคำให้ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม จีนมีโอกาสที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เนื่องจากความเสี่ยงด้านภาวะเงินฝืดที่ยังคงมีอยู่ โดยสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางจีน แสดงความเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จีนจะผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นในอนาคต ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลง แต่อย่างไรก็ตามแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำไม่มากนักเพราะนักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อการดีดตัวขึ้นของดอลลาร์โดยเฉพาะก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐสดใสมากขึ้นเมื่อ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยาน 2013 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ และรายงานนี้ได้ช่วยเพิ่มแรงสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะส่งผลลบต่อทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,195-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,180-1,177 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,180-1,177 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบหากราคาสามารถการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,195 หรือ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,177 (18,040บาท) 1,165 (17,860บาท) 1,160 (17,780บาท)
แนวต้าน 1,195 (18,340บาท) 1,205 (18,480บาท) 1,215 (18,630บาท)
GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ 1,177 (18,150บาท) 1,165 (17,970บาท) 1,160 (17,890บาท)
แนวต้าน 1,195 (18,430บาท) 1,205 (18,580บาท) 1,215 (18,740บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148