กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) จัดสัมมนาพิเศษ หัวข้อ “ปรับทัพ รับทุนนอก” ตีโจทย์ตลาดหุ้นไทย มั่นใจเงินทุนจากต่างชาติและทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นช่วยสนับสนุนตลาดเป็นบวก คงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยที่ 1,800 จุด ตามประมาณการณ์เดิม ชี้ความมั่นใจของนักลงทุนจะกลับมาปลายไตรมาส2/2558 พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบเจาะลึก วิเคราะห์หุ้นดาวเด่นรายตัว โดยทีมงานฝ่ายวิจัยที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์
นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด(SCBS) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงถึง 6.4% จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เกิดจากผลประกอบการที่อ่อนแอของไตรมาส4/2557 ซึ่งเป็นการมองย้อนหลังไปในอดีตและลงลึกมากเกินไป โดยความกังวลที่นักลงทุนมีต่อแนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะยังอยู่ต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าประมาณปลายไตรมาส2 หรือในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่ดีและยังคงมุมมองระยะยาวสำหรับเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์(SET INDEX) ปลายปีนี้ไว้ที่ 1,800 จุด โดยมีปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนคือ 1.เงินทุนไหลเข้าที่เกิดจากการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณทางการเงิน (QE) ทั้งในยุโรปและญี่ปุ่น 2.ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากภาคธุรกิจกลับมาจัดเก็บสต็อกสินค้าคงคลังเพิ่ม จากที่ลดลงในระดับผิดปกติ การเบิกจ่ายงบประมาณการคลัง และการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคด้วยราคาน้ำมันที่ลดลง
“สภาพคล่องทั่วโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้นประเทศที่มีเสถียรภาพภายนอก/ภายในประเทศจะมีความน่าสนใจในการดึงดูดเม็ดเงินเหล่านั้น ซึ่ง SCBS มองว่าประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากวัฏจักรเศรษฐกิจขาลงได้สิ้นสุดลงแล้ว ในขณะที่มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะประกาศกรอบเวลาการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้จริงในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 โดยความชัดเจนทางการเมืองจะกระตุ้นให้ตลาดปรับตัวขึ้นต่อในปีนี้”
สำหรับหุ้นดาวเด่น ที่ SCBS แนะนำในครั้งนี้ ได้แก่ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและราคาน้ำมันลดลงมาก บมจ.เอพี ไทยแลนด์ (AP) มียอดขายแข็งแกร่งและได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง บมจ.ไดนาสตี้ เซรารมิค (DCC) ต้นทุนการผลิตลดลงตามราคาพลังงาน บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) สินเชื่อและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่อง บมจ.ธนาคารกรุงไทย(KTB) แนวโน้มสินเชื่อน่าจะเติบโตสูงกว่ากลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่องในปี 2558-2559 บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCC) ธุรกิจอยู่ในวัฏจักรขาขึ้นและยังได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลง และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ส่วนแบ่งตลาดรายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะ 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ที่จะร่วมขึ้นเวทีสัมมนา “ปรับทัพ รับทุนนอก” เพื่อให้ข้อมูล ความรู้ และกลยุทธ์ต่างๆ ในครั้งนี้ประกอบด้วย นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ นักกลยุทธ์การลงทุน นางสิริการย์ กฤษฏิ์นิพัทธ์ นักวิเคราะห์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรม นางสาวกิตติมา สัตยพันธ์ นักวิเคราะห์กลุ่มธนาคาร เงินทุน ประกัน และหลักทรัพย์ นางสาวระวีนุช ปิยะเกรียงไกร นักวิเคราะห์กลุ่มการแพทย์ สื่อบันเทิง และท่องเที่ยว และนายปฏิภาค นวาวัตน์ นักวิเคราะห์กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร สื่อและบันเทิง