เผยความลับสมองลูก ที่คุณอาจไม่เคยรู้ รู้ไหม สมองลูกไม่เคยหลับ และมีการเรียนรู้ทุกเวลา ทั้งกลางวัน และกลางคืน

ข่าวทั่วไป Wednesday May 6, 2015 16:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ในยุคสมัยที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่ต่างพยายามทำทุกอย่างเพื่อเตรียมลูกให้พร้อมที่จะพัฒนาทันโลก ไม่ว่าจะเป็นการจัดหากิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาสมองและเสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็ก ซึ่งโดยทั่วไปจะเน้นไปที่การทำกิจกรรมในช่วงเวลากลางวันที่เด็กตื่นนอน แต่คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่า สมองของลูกสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน และหากพยายามให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ ในขณะที่เด็กยังพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ การจดจำของเด็กๆ ไปจนถึงเป็นการปิดกั้นการสื่อสารระหว่างเซลล์สมองอีกด้วย สมองพัฒนาทั้งกลางวันและกลางคืน ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่พยายามศึกษาหาแนวทางในการการเลี้ยงลูกให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยเน้นให้เด็กทำกิจกรรม และเปิดรับประสบการณ์ต่างๆ รอบตัว ทุกอย่างเป็นสิ่งแปลกใหม่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ แต่ในขณะเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมว่าการนอนหลับพักผ่อนของเด็กก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แพทย์หญิง เกศินี โอวาสิทธิ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ให้ความเห็นว่า “คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมและพัฒนาการของลูกในเวลากลางวัน แต่อันที่จริงแล้ว สมองของลูกสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน โดยขณะที่เด็กนอนหลับในเวลากลางคืน นอกจากเป็นการพักผ่อนแล้ว กลางคืนยังเป็นช่วงเวลาที่สมองของลูกเก็บประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวัน บันทึกไว้เป็นความทรงจำระยะยาว ทำให้เด็กสามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นด้วย” ฉะนั้น การนอนหลับที่สนิทไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้สมองมีการเรียนรู้ แต่การนอนยังทำให้เซลล์ประสาทเจริญเต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆ ในขณะตื่นในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคการส่งเสริมการเรียนรู้ และพัฒนาการสมอง คุณพ่อคุณแม่อาจทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจัยหลักในการพัฒนาสมองลูก มี 3 ปัจจัย ได้แก่ พันธุกรรม สภาพแวดล้อมซึ่งรวมไปถึงการเลี้ยงดู และโภชนาการ โดยปัจจัยด้านพันธุกรรมนั้นเป็นปัจจัยที่ปรับเปลี่ยนได้ยาก การเลี้ยงดูเอาใจใส่ และการดูแลเรื่องโภชนาการ จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะในช่วง 1,000 วันแรกของชีวิต ที่สมองเจริญเติบโตและพัฒนาได้รวดเร็วและมากถึง 80% ของสมองผู้ใหญ่ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่ดี และเรียนรู้ได้ไว คุณพ่อคุณแม่ควรเสริมการเรียนรู้และพัฒนาสมองตามวัยของเด็ก รวมทั้งเข้าใจลูก ว่าเด็กอาจมีความแตกต่างกันในพื้นฐานของอารมณ์ ความถนัด ซึ่งนอกจากการชวนลูกทำกิจกรรมที่จะช่วยพัฒนาสมองทั้งสองข้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับที่เพียงพอของลูก ซึ่งการนอนโดยเฉลี่ยของเด็กปฐมวัยนั้นอยู่ที่ราว 12-14 ชั่วโมงต่อวัน การเตรียมสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดการนอนหลับที่ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่ในระหว่างที่ลูกนอนหลับ คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถเข้าไปช่วยในเรื่องการเรียนรู้หรือการพัฒนาสมองของลูกได้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำให้ลูกน้อยได้ก็คือ การดูแลเอาใจใส่เรื่องโภชนาการที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่ลูกตื่น เพื่อให้สมองลูกสามารถนำสารอาหารมาใช้ในช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ และทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างสมองให้เรียนรู้และพัฒนาที่สำคัญ ได้แก่ ดีเอชเอ ลูทีน โคลีน: เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างการทำงานของสมอง เด็กๆ จึงควรได้รับสารอาหารเหล่านี้ในชีวิตประจำวันเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและการทำงานของสมอง แอลฟา-แล็คตัลบูมิน: เป็นโปรตีนคุณภาพสูง พบในน้ำนมแม่ ย่อยง่าย และให้กรดอะมิโนจำเป็น ที่ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาสมอง ซึ่ง “ทริบโตเฟน” เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนจำเป็นที่เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาท คือ “เซราโตนิน” ซึ่งช่วยในการควบคุมการนอนหลับ และกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาสติปัญญา เมื่อร่างกายได้รับแอลฟา-แล็คตัลบูมินเข้าไป จะให้กรดอะมิโนชื่อ ทริบโตเฟน เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนจำเป็นที่ ช่วยในการนอน โดยร่นระยะเวาลานอน ให้หลับเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่สำคัญสำหรับสมองอีก ได้แก่ ไอโอดีนและธาตุเหล็ก เป็นต้น เมื่อเด็กได้รับสารอาหารที่ดี และนอนหลับสนิทอย่างเพียงพอ เด็กจะสามารถตื่นขึ้นมาพร้อมสมองที่ปลอดโปร่ง สดใส พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และสามารถก้าวทันโลกแห่งการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทันที
แท็ก สมอง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ