ธอส. ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายสานฝันให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 11, 2015 16:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) แจงกรณีมติ ครม. เห็นชอบให้ยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการและนำเงินงบประมาณในโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการที่กรมบัญชีกลางฝากอยู่ที่ ธอส. ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินนั้น เป็นเพียงโครงการเก่าที่หยุดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545 ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายให้ ธอส. เดินหน้าสร้างโอกาสให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างต่อเนื่อง นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ และนำเงินงบประมาณในโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการที่กรมบัญชีกลางฝากอยู่ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามข่าวที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ ธอส. ขอชี้แจงว่า โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ เป็นโครงการให้สินเชื่อแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ.2535 โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-3.00 (ปัจจุบัน MRR ธอส. เท่ากับ 6.85 ต่อปี) ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับอุดหนุนเงินงบประมาณจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง และ ธอส.สมทบอีกส่วนหนึ่ง เพื่อให้เป็นสวัสดิการให้ข้าราชการ ลูกจ้าง มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตามได้ยุติการปล่อยสินเชื่อใหม่สำหรับโครงการดังกล่าวแล้วตั้งแต่ปี 2545 โดยมีจำนวนของลูกค้าที่เป็นข้าราชการเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 71,559 บัญชี วงเงินประมาณ 27,300 ล้านบาท และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 ยังมีลูกค้าคงเหลือจำนวน 2,670 บัญชี วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อหาวิธีปฏิบัติเพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ยังอยู่ในโครงการเดิมได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันแม้จะยุติการดำเนินโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ ในปี 2545 แต่รัฐบาลก็ได้มีนโยบายให้ธนาคารจัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อรองรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2544 – 2557 ส่วนข้าราชการที่ไม่ใช่สมาชิก กบข. ก็สามารถใช้บริการ โครงการสินเชื่อสำหรับบุคลากรภาครัฐ ได้ โดยยอดสินเชื่อล่าสุด ณ เดือนมีนาคม 2558 มีข้าราชการและบุคลากรภาครัฐได้รับสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าวไปแล้วกว่า 252,000 บัญชี คิดเป็นวงเงินกู้รวมกว่า 184,000 ล้านบาท และขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวโครงการประจำปี 2558 ซึ่งเป็นโครงการบ้าน ธอส. – กบข. ครั้งที่ 11 “ยืนยันว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายให้ ธอส. เดินหน้าสร้างโอกาสให้ลูกค้าประชาชน รวมถึงข้าราชการและบุคลากรภาครัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองต่อเนื่อง ดังนั้น ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ยังสามารถใช้บริการสินเชื่อบ้านกับ ธอส. ได้เช่นเดิม โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาลของ ธอส. ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นผู้ที่ยังไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาก่อนซึ่งเป็นไปตามพันธกิจหลักของธนาคาร” นางอังคณากล่าว นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่มติ ครม. กำหนดให้ ธอส. นำเงินตามโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดจากโครงการดังกล่าวทั้งหมดคืนให้กรมบัญชีกลาง เพื่อส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินนั้น ธนาคารได้มีการประชุมหารือกับกรมบัญชีกลางมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยล่าสุดมีเงินที่กรมบัญชีกลางฝากไว้กับ ธอส. ตามโครงการดังกล่าว จำนวน 7,600 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม. ต่อไป ทั้งนี้ การส่งเงินคืนดังกล่าวไม่ได้กระทบกับสภาพคล่องหรือความแข็งแกร่งของธนาคาร เห็นได้จากสถานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หรือ BIS Ratio ณ สิ้นเดือนมีนาคมอยู่ที่ระดับ 16.73% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งเอาไว้ที่ 8.5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ