พีอีเอ ปักธงจัดงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2015 รุกควบ 2 งานใหญ่ C-Tech 2015 และ Solar-Tech 2015

ข่าวบันเทิง Thursday May 28, 2015 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ทีมประชาสัมพันธ์ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการ”ประกาศศักยภาพ พร้อมปั้นไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมประหยัดพลังงานของโลกใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ พีอีเอ ร่วมกับบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ เตรียมพร้อมลุยงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2015 หรือ งานแสดงนวัตกรรมประหยัดพลังงานด้านแสงสว่าง ครั้งที่ 3 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการ” โดยจัดร่วมกับ 2 งานใหญ่ คือ C-Tech 2015 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านระบบทำความเย็นและปรับอากาศ และ Solar-Tech 2015 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์ มั่นใจไทยครองแชมป์ผู้จัดงานแสดงนวัตกรรมประหยัดพลังงานที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย นายธีรวุทธิ์ วัตรกิจไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า “แนวโน้มสถานการณ์วิกฤตไฟฟ้าไทยในปี 2558 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3-4 จากปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 4-5 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ภาคอุตสาหกรรมและประชาชนใช้ไฟฟ้าน้อยลงส่วนการขยายตัวของปริมาณการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ 6 เมืองที่มีชายแดนติดกับประเทศในกลุ่มอาเซียน คาดว่า เมื่อมีการเปิด AEC จะทำให้เกิดขยายตัวของอุตสาหกรรมไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ PEA ยังคงเดินหน้าตามแผนพัฒนาระบบไฟฟ้า ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 เงินลงทุนรวม 1.03 แสนล้านบาท อาทิ แผนโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือ PEA Smart Grid เพื่อรองรับการเชื่อมต่อของระบบไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทางเลือกที่สะอาด และการบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าผ่านโครงข่ายผ่านมิเตอร์อัจฉริยะ โดยความคืบหน้าสำหรับโครงการนำร่องที่พัทยา จ.ชลบุรี มูลค่า 1,069 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อมาช่วยทำแผนประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะเปิดประกวดราคารับเหมาได้ในช่วงกลางปี 2559 เป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้ ส่วนแผนพัฒนาพลังงานทดแทนในกรอบ 10 ปี คือ ปี 2555 - 2565 ขณะนี้การรับซื้อพลังงานแสงอาทิตย์ ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ที่ 3,000 เมกะวัตต์ และรอสัญญาณจากรัฐบาลว่าจะมีนโยบายขยายเพดานเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่ด้านการรับซื้อพลังงานชีวมวล ที่ยังไม่ถึงเป้าหมาย 4,600 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้รับซื้อได้เพียง 1,200 เมกะวัตต์ ส่วนการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์วิกฤติด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้า นอกจากการขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วน ลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่และกิจการเฉพาะ ที่มีมิเตอร์ที่สามารถบันทึกการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ทุก 15 นาที เป็นระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 31 วัน (มิเตอร์ AMR) ได้จัดโครงการให้ความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า โดยผู้สมัครจะต้องลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อมีการร้องขอไม่น้อยกว่า 100 กิโลวัตต์ต่อครั้ง ในแต่ละช่วงวันเหตุการณ์ จะได้รับเงินชดเชยจากหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่ลดได้ หน่วยละ 3 บาท ทั้งนี้มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ได้รณรงค์ให้เกิดการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และการรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ก็จัดงานเพื่อส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงในงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2015 ร่วมกับ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด” นางบุษยา ประกอบทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า “PEA presents EcoLightTech Asia 2015 เป็นงานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานด้านแสงสว่างเพื่อผู้ประกอบการ ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ให้การสนับสนุนเป็นปีที่ 2 โดยในปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในการจัดงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในด้านการเจรจาธุรกิจ เติบโตขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2556 ทำลายสถิติการเข้าชมงานทั้งจากผู้เข้าชมงานในประเทศและต่างประเทศ เติบโตขึ้นร้อยละ 10 และ 13 ตามลำดับ รวมทั้ง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จาก 9 ประเทศทั่วโลก ทำให้การจัดงานเต็มพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร และเกิดการเจรจาธุรกิจเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 54 สร้างมูลค่าการซื้อขายได้มากถึง 200 ล้านบาท ความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ PEA presents EcoLightTech Asia 2015 เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในสามงานใหญ่ด้านแสงสว่างแห่งอาเซียน เป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าและบริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านแสงสว่างประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการในระดับอาเซียน” สำหรับ PEA presents EcoLightTech Asia 2015 นี้ จะจัดร่วมกับ 2 งานใหญ่ คือ งาน C-Tech 2015 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านระบบทำความเย็นและปรับอากาศ และ Solar-Tech 2015 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการ”ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมงานทั้งในระดับนานาชาติ ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ อย่างครบวงจรที่สุด ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ นายธีรวุทธิ์ วัตรกิจไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวสรุปว่า “เรามั่นใจว่า งาน PEA presents EcoLightTech Asia 2015 ในปีนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เนื่องจากการขยายพื้นที่การจัดงาน รวมถึงการดึง 2 แนวคิดไอเดียการประหยัดพลังงานด้าน C-Tech และ Solar-Tech เข้ามาร่วมในการจัดงานครั้งนี้ กล่าวคือ งาน C-Tech 2015 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านระบบทำความเย็นและปรับอากาศ รวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการด้านระบบทำความเย็น เครื่องแช่เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องควบคุมอุณหภูมิ ที่เน้นการประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และ SolarTech 2015 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์ จะเป็นเวทีที่นำเสนอสินค้า บริการ และการให้คำปรึกษาด้านพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับภาคอุตสาหกรรม รวบรวมผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องมือเพื่อการผลิตจากผู้ประกอบการชั้นนำจากทั่วโลกมาจัดแสดง จึงนับได้ว่าทั้งสามงานนี้ จะเป็นการรวบรวมสุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานอย่างครบถ้วน และเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างประเทศจะได้มาพบปะเจรจาการค้าครั้งสำคัญเพื่อต่อธุรกิจของอุสาหกรรมประหยัดพลังงานของไทยให้เติบโตต่อเนื่องได้อีกยาวไกล และสามารถบรรลุเป้าหมายผู้เข้าชมงานประมาณ 5,000-8,000 ราย และสร้างมูลค่าการซื้อขายภายในงานได้มากถึง 300 ล้านบาท” PEA presents EcoLightTech Asia 2015 จัดพร้อมกับ C-Tech 2015 และ SolarTech 2015 ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ecolight-tech.com หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 02 203 4261-62

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ