คุณเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมอยู่หรือเปล่า?

ข่าวทั่วไป Wednesday June 3, 2015 16:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาเก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ หากคุณอายุ 40 ปีขึ้นไปและละเลยการดูแลรักษาสุขภาพ ใช้ร่างกายอย่างหักโหม อาจมีโรคร้ายเข้ามาเยี่ยมเยียน หนึ่งในโรคท็อปฮิตที่คนวัยกลางคนและผู้สูงอายุมักหนีไม่พ้นก็คือ โรคข้อเข่าเสื่อม จากการศึกษาพบว่าประมาณ 10% ของประชากรทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย พบว่ามีประชากรเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งหากลองคำนวณจาก 10% ของประชากรในประเทศไทย คือ ประมาณ 6 ล้านคน (10% จาก 60 ล้านคน) ที่ป่วยเป็นโรคข้อเสื่อม ซึ่ง ณ ปัจจุบันกลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว เพราะผู้ป่วยต้องเสียค่ารักษาเรือนแสนในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า หากไม่มีเงินในการรักษาก็ต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต คุณภาพชีวิตแย่ลง และทำให้โรคอื่นๆ กำเริบ อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากไม่สามารถออกกำลังกายได้นั่นเอง ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธาน และกรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) นักวิทยาศาสตร์ไทยคนแรกผู้ค้นคิดวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลจากสารสกัดธรรมชาติ และผู้วิจัยพืชไทยต้านโรคข้อเข่าเสื่อมได้สำเร็จ เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีน้ำหนักมาก เป็นโรคไขข้ออักเสบหรือรูมาตอยด์พันธุกรรมแต่กำเนิด มีขาหรือเข่าที่ผิดรูป ออกกำลังกายที่มีการกระแทกอย่างมาก เช่นการวิ่ง การทำพฤติกรรมที่อันตรายต่อข้อเข่านานๆ อาทิ คุกเข่า นั่งพับเพียบ นั่งยองๆ กับพื้นนานๆ ทั้งนี้โรคข้อเสื่อมเกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อ (Cartilage) ลดลง ซึ่งตามปกติกระดูกอ่อนผิวข้อจะทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวดูดซับแรงกดภายในข้อ และป้องกันไม่ให้กระดูกที่อยู่ภายใต้กระดูกอ่อนกระแทกกระดูกอีกฝั่ง หากกระดูกอ่อนผิวข้อเหล่านี้ลดลง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม น้ำหนัก หรือแรงกดที่กระทำกับข้อ และเอ็นรอบข้อถูกยึด ข้อขัด ข้อฝืด เหยียด งอเข่าได้ไม่สุดและมีเสียงดังในข้อเวลาขยับข้อเข่าจากการเสียดสีกันของผิวข้อที่ไม่เรียบ จะส่งผลให้กระดูกใต้กระดูกอ่อนผิวข้อสัมผัสกัน เป็นเหตุให้เกิดอาการปวดข้อเข่า และสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอักเสบและปวดข้อก็มาจากการที่เม็ดเลือดขาวหลั่งสาร TNF-X, IL-6 และ IL-17 ออกมามากเกินไปนั่นเอง สำหรับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน รักษาได้โดยการผ่าตัด ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี ได้แก่ การล้างข้อด้วยการใช้การส่องกล้องช่วยล้างน้ำไขข้อที่อักเสบ การผ่าตัดจัดแนวกระดูกขาใช้ในกรณีขาโก่งผิดรูปเล็กน้อย และการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นการผ่าตัดเอาผิวข้อที่สึกออกไปและทดแทนด้วยผิวข้อเทียมซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว และยังมีระยะพักฟื้นอีกหลายเดือน แต่สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการผ่าตัด ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่เป็นวิธีธรรมชาติซึ่งสามารถต้านโรคข้อเข่าเสื่อมได้ โดยล่าสุดคณะนักวิทยาศาสตร์ไทยสามารถสกัดพืชไทย 5 ชนิดได้แก่ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก โดยสารสกัดดังกล่าวเมื่อเสริมฤทธิ์กันมีคุณสมบัติในการลดการหลั่งสาร TNF-X, IL-6 และ IL-17 ของเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ สร้างภาวะภูมิคุ้มกันที่สมดุลให้กับร่างกาย นอกจากนี้สารสกัดจากธรรมชาติยังสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนและกระดูกอ่อนเมื่อมีการใช้งานต่อเนื่องอีกด้วย นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่นักวิทยาศาตร์ไทยสามารถวิจัยเป็นผลสำเร็จ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการมีสุขภาพที่ดี เพราะการที่มีสุขภาพที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนปรารถนา แต่การจะมีสุขภาพดีได้ สำคัญคือเราทุกคนต้องหา “ความสมดุล” ของร่างกายให้เจอ เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันที่ดีและใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด สิทธิ วัฒนายากร โทรศัพท์ 0-2610-2384

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ