“โกลเบล็ก” ชี้กรีซส่อแววฉุดดัชนีหุ้นไทยลงต่อ ลุ้นนโยบายภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ-ดันกลุ่มรับเหมา-สินเชื่อเด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 4, 2015 15:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยเดือนมิ.ย.ยังผันผวนหนัก แนะกลยุทธ์การลงทุนลงทุนสะสมหุ้น รอการฟื้นตัวรอบใหม่ใกล้ปิดงบไตรมาส 2/58 หวังการทำ Window Dressing ให้กรอบการแกว่งตัวที่ 1,460 – 1,520 จุด เน้นกลุ่มรับเหมา กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ รับอานิสงค์ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง และการลดดอกเบี้ยเงินกู้ ชูหุ้นเด่น ITD, CK , STEC , SEAFCO , PYLON , SAWAD, MTLS, GL และTHANI น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยประจำเดือนมิถุนายนว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนมากโดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกรีซที่ยังไม่มีความชัดเจน จึงให้กรอบดัชนีไว้ที่ระดับ 1,460 – 1,520 จุด เนื่องจากความกังวลต่อปัญหาหนี้กรีซที่จะครบกำหนดชำระหนี้ IMF 1,600 ล้านยูโรในเดือนมิถุนายน รวมถึงแรงกดดันจากกลุ่มธนาคารจากความกังวล NPL ในส่วนของ SME และรายย่อย รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงขาเดียวซึ่งกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อย่างไรก็ตาม มองว่าการย่อตัวของดัชนีเป็นจังหวะทยอยเข้าซื้อสะสมในระยะกลาง-ยาว เนื่องจากคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย จะมีการฟื้นตัวในช่วงปลายเดือนจากการทำ Window Dressing ปิดงบไตรมาส 2/2558 อีกทั้งคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ “ตลาดมีการตอบปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบ้าง เช่น ร่างแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2558-2562 งบลงทุน 1.4 ล้านล้านบาท และมีการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ อาทิ ท่าเทียบเรือชายฝั่งท่าเรือแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยแต่ก็ไมชัดเจนมากนัก” น.ส.วิลาสินี กล่าว ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2/2558 มีแนวโน้มฟื้นตัวล่าช้า และเปราะบางเช่นเดียวกับไตรมาส 1/2558 การส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปียังติดลบเกือบ 4% การบริโภคภายในประเทศอยู่ในกรอบจำกัดจากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ลงอีกในวันที่ 19 มิถุนายนจากเดิม 3.8% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐปรับดีขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราวเดือนกันยายน เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนยังคงขยายตัวแม้จะลดความร้อนแรงลงบ้าง ส่วนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเห็นธนาคารกลางจีนเดินผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้คาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะยังไม่เห็นนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในไทยรวมถึง Emerging market จากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวลง สวนทางกับกลุ่มประเทศใหญ่ เช่น USA EURO JAPAN ที่เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงตลาดหุ้นจีนที่น่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ดังนั้น Fundflow มีแนวโน้มจะไหลไปยังประเทศดังกล่าวมากกว่ากลุ่มประเทศ TIPS ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่า ว่า SET ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเพื่อทดสอบแนวรับ 1,460 จุด แต่เป็นจังหวะในการเข้าซื้อสะสมระยะกลาง-ยาว เพื่อหวังการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล ดังนั้นจึงคัดสรรหุ้นที่น่าสนใจ และได้ประโยชน์จากการกระเศรษฐกิจของภาครัฐ ได้แก่ กลุ่มรับเหมา จาก Big Project ภาครัฐ เช่น ไทย-ญี่ปุ่นเซ็น MOC โครงการรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง หุ้นเด่น คือ ITD CK STEC SEAFCO PYLON เช่นเดียวกันกับกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ ได้ประโยชน์จากต้นทุนการเงินที่ลดลงจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ และหากการประชุม กนง.วันที่ 10 มิถุนายนนี้ มีการปรับลดดอกเบี้ย R/P ลงอีกจะยิ่งเป็นบวก โดยหุ้นที่ได้รับอานิสงค์ คือ SAWAD MTLS GL THANI

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ