บลจ. กสิกรไทย มั่นใจหุ้นยุโรปยังเติบโตได้ดี พร้อมส่งกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 ตั้งเป้าทริกเกอร์ 6% ใน 1 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2015 12:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--บลจ.กสิกรไทย บลจ. กสิกรไทย มองเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ หนุนหุ้น STOXX EUROPE 600 ทะยานต่อ พร้อมส่งกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 (KEET2) ตั้งเป้าโอกาสรับผลตอบแทน 6% ภายใน 1 ปี เปิดขายครั้งเดียว 16-18 มิ.ย นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งได้รับผลดีจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องผ่านการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ เป็นวงเงินกว่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558- กันยายน 2559 ซึ่งจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจยุโรปสามารถฟื้นตัวได้ นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้ค่าเงินยูโรมีทิศทางอ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยหนุนบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจด้านส่งออกให้สามารถเติบโตได้ดี เนื่องจากปัจจุบันรายได้เกินกว่า 50% ของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปส่วนใหญ่มาจากภายนอกภูมิภาคยุโรป ทั้งนี้ แม้ว่าดัชนีหุ้นยุโรป (STOXX EUROPE 600) จะปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากตั้งแต่ต้นปี แต่จากกรณีความกังวลในสถานการณ์ปัญหาหนี้กรีซ ทำให้ดัชนีดังกล่าว ปรับตัวลงมาประมาณ 7% จากระดับสูงสุดของปี อย่างไรก็ตาม ความกังวลดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น และจะไม่ส่งผลถึงเศรษฐกิจทั้งภูมิภาค บลจ.กสิกรไทยจึงมีมุมมองในเชิงบวกและยังเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจของยุโรปในระยะยาว โดยมองว่าผู้ลงทุนอาจอาศัยจังหวะที่ตลาดปรับตัวลงในช่วงนี้ สามารถเข้าสะสมการลงทุนในหุ้นยุโรปเพิ่มเติมได้ นายนาวินกล่าวต่อว่า “ในโอกาสนี้ บลจ.กสิกรไทย จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 (KEET2) ซึ่งมุ่งหวังโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ประมาณ 6% ภายใน 1 ปี โดยจะเปิดขายครั้งเดียวในวันที่ 16-18 มิถุนายน 2558 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากการเติบโตของตลาดหุ้นยุโรป และสามารถรับความผันผวนของตลาดหุ้นยุโรปได้ ทั้งนี้ กองทุน KEET2 จะลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศพร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ กองทุน iShares STOXX Europe 600 (DE) บริหารจัดการโดย iShares ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในกลุ่มกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยกองทุนหลักดังกล่าวจะมุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี The STOXX Europe 600 (EUR) ที่ประกอบไปด้วยหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวน 600 หุ้น จาก 18 ประเทศทั่วทวีปยุโรป ทั้งนี้แม้ว่า ดัชนี STOXX EUROPE 600 ปัจจุบันจะมีระดับราคาค่อนข้างสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตแล้ว โดยอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Forward P/E) ปัจจุบันอยู่ที่ 16.7 เท่า เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 13 เท่า อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX EUROPE 600 ก็ยังมีแนวโน้มอัตราการเติบโตของผลกำไรที่สูง (Earnings Growth) ซึ่ง Bloomberg คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของผลกำไรในอีก 1 ปีข้างหน้าจะสามารถเติบโตได้ถึงเกือบ 20% กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 (KEET2) ตั้งเป้าหมายที่จะให้ผู้ลงทุนได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ 6%* ภายในระยะเวลา 1 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนรับผลตอบแทน 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.30 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 3% และครั้งที่ 2 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมดและเลิกกองทุนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.70 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนอีกประมาณ 3%* ทั้งนี้เมื่อกองทุนมีอายุครบ 1 ปี บลจ.กสิกรไทยจะเปิดให้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติได้ หรือจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและเลิกกองทุน หากหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.30 บาท (หมายเหตุ: *เป็นเพียงเป้าหมายการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดเพื่อเลิกกองทุนเท่านั้น ไม่ใช่ตัวประมาณการหรือรับประกันอัตราผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงอาจจะได้ผลตอบแทนต่ำกว่าที่อ้างถึง) ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 (KEET2) ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ