กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--สำนักงานสหกรณ์จังหวัด
หนึ่งในนโยบายสำคัญของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ การส่งเสริมพัฒนาอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งกิจกรรมที่สำคัญและได้เร่งดำเนินการคือ การส่งเสริมให้นิคมสหกรณ์เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ดีและแหล่งกระจายพันธุ์ดีไปยังสมาชิกสหกรณ์
“ขณะนี้เราได้คัดเลือกพื้นที่นำร่องในการดำเนินการไว้หลายพื้นที่ โดยสหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่อง ซึ่งที่นี่จะเป็นเสมือนสหกรณ์ต้นแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี และกระจายพันธุ์ดีที่ได้คุณภาพมาตรฐานไปยังสมาชิก ซึ่งจะเป็นการช่วยภาครัฐในการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี ให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร” นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโรงสีข้าวชุมชนขนาดเล็ก และห้องปฏิบัติการตรวจสอบมาตรฐานเมล็ดพันธุ์พืช (Seed Lab) ของสหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินโครงการ ในปีงบประมาณ 2557 กรมส่งเสริม
สหกรณ์ได้จัดสรรงบประมาณ เงินอุดหนุนให้กับสหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด เพื่อก่อสร้างโรงสีชุมชนขนาดเล็ก ขนาด 5 ตันต่อวัน จำนวน 1,200,000 บาท โดยสหกรณ์สมทบอีกจำนวน 240,000 บาท และก่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจสอบมาตรฐานเมล็ดพันธุ์พืช ( Seed Lab) พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 679,000 บาท สหกรณ์สมทบอีก จำนวน 290,000 บาท เพื่อไว้บริการสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกรในเขตนิคมสหกรณ์
จากการสนับสนุนของกรมส่งเสริมสหกรณ์ดังกล่าวจะทำให้สหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ข้าวโพด ถั่วเขียว ที่มีคุณภาพ สามารถกระจายเมล็ดพันธุ์ดีไปสู่สมาชิกสหกรณ์ โดยในส่วนของการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ได้มีสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 20 ราย พื้นที่รวม 200 ไร่ ได้เมล็ดพันธุ์ดีจำนวน 10 ตัน ซึ่งราคาเมล็ดพันธุ์ที่จำหน่ายโดยผ่านสหกรณ์จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 90 บาท ในขณะที่ราคาในท้องตลาดอยู่ที่ 150 บาท
“หลังจากนี้ไปสมาชิกในพื้นที่ประมาณ 3,000 กว่าราย จะมีเมล็ดพันธุ์ดีเพียงพอกับความต้องการ และทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งในระยะยาวโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกสหกรณ์อย่างมาก” นายโอภาส กล่าว
จากความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้สหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด เป็นสหกรณ์ต้นแบบในการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี และกระจายพันธุ์ดีที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นการช่วยภาครัฐในการผลิตเมล็ดพันธุ์ดี ให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร
ทั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จังหวัดตาก จะเป็นประตูด่านแรกในการเข้าสู่ประเทศพม่า ซึ่งจะสามารถเดินทางไปมา ทำการค้าขายได้สะดวกมากขึ้น ดังนั้นสมาชิกสหกรณ์ต้องเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ไม่ว่าด้านการประกอบอาชีพ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา วัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งหาป้องกัน รองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกๆด้าน และที่สำคัญคือการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ข้าวโพด ถั่วเขียว ที่สหกรณ์นิคมได้ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูก จะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง
นายอัชณา สุวรรณนิตย์ สหกรณ์จังหวัดตาก กล่าวเสริมว่า สำหรับการเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชชนิดต่างๆของนิคมสหกรณ์ทางสหกรณ์จังหวัดตากมีแผนที่จะบูรณาการการทำงานร่วมกับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวลำปาง กรมการข้าว ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชพิษณุโลก กรมการวิชาการเกษตร เพื่อยกระดับธุรกิจการผลิตเมล็ดพันธุ์ของนิคมสหกรณ์ต่างๆที่ดำเนินการ เพื่อให้สามารถก้าวไปสู่การเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์และแหล่งกระจายพันธุ์ดี หรือSeed hub และธนาคารเมล็ดพันธุ์ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพ
สหกรณ์จังหวัดตากกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดตาก ในการดำเนินการตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลในนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรในพื้นที่ชายแดน ขณะนี้มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 5 สหกรณ์ ประกอบด้วยสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด สหกรณ์นิคมแม่ระมาด จำกัด สหกรณ์การเกษตรแม่ระมาด จำกัด สหกรณ์การเกษตรพบพระและสหกรณ์การเกษตรบ้านจากจำกัด
“โดยปัจจุบันได้ดำเนินการรวบรวมข้าวโพดของสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกรในพื้นที่แล้ว จำนวน 19,000 ตัน ตามศักยภาพการผลิต รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการรวบรวมข้าวโพดตามแนวชายแดนด้วย” สหกรณ์จังหวัดตากกล่าว
นี่คือหนึ่งบทบาทแห่งการพัฒนาที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เร่งดำเนินการ...