กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ซีพีเอฟ
นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีว- อนามัย และสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี ทำให้สามารถคว้ารางวัลจากงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ ครั้งที่ 29 ประจำปี 2558 ที่จัดโดยกระทรวงแรงงาน มาได้จำนวน 55 รางวัล ได้แก่ รางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย 48 แห่ง, รางวัลคณะกรรมการความปลอดภัยฯ ดีเด่น 1 แห่ง, รางวัลทีมฉุกเฉินประจำสถานประกอบการ 3 รางวัล และรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยดีเด่น 3 ท่าน โดยได้รับเกียรติจากพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้มอบ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร
นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานได้เข้าร่วมประกวดสถานประกอบการดีเด่น ที่กระทรวงแรงงานจัดขึ้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานด้านความปลอดภัยฯ ของซีพีเอฟเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการการันตีถึงความทุ่มเทในการทำงานด้านความปลอดภัย ซึ่ง "โรงงานผลิตอาหารสัตว์พิษณุโลก" เป็นสถานประกอบการของซีพีเอฟที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นติดต่อกันสูงสุดถึง 15 ปี และในปีนี้โรงงานซีพี-เมจิ ยังได้รับ 3 รางวัล จากรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัยฯ และรางวัลคณะกรรมการความปลอดภัยฯ ดีเด่นอีกด้วย
จากนโยบายและระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงาน หรือ CPF SHE & En Management System ของบริษัทที่คำนึงถึงหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยเป็นสำคัญ ตลอดจนมีการติดตามและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีพีเอฟได้รับรางวัลเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีโรงงานของซีพีเอฟถึง 12 แห่งที่ได้รับรางวัลติดต่อกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป อาทิ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ลำพูน, โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกหนองแค สระบุรี, โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ สงขลา ที่สามารถคว้ารางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่14 ขณะที่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ธารเกษม สระบุรี, โรงงานมีนบุรี 1 กรุงเทพมหานคร, โรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 13
"รางวัลที่ซีพีเอฟได้รับมาจากความมุ่งมั่นของพนักงานทุกคน จากประสบการณ์ การเรียนรู้ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงพัฒนาการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีต่อพนักงาน พร้อมมุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ในด้านขวัญและกำลังใจในการทำงาน บริษัทได้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลทำให้กระบวนการผลิตมีคุณภาพทั้งระบบ ทั้งด้านการผลิต ผลิตภัณฑ์ และการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป" นายนพดล กล่าวทิ้งท้าย
ระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ของซีพีเอฟ หรือ "CPF SHE & En Management System" เป็นระบบที่มีนโยบายการดำเนินงานด้านความปลอดภัยฯ ที่สอดคล้องตรงตามที่กฏหมายกำหนด รวมถึงการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลทั้งระบบ OHSAS 18001 และระบบ ISO 14001 ที่มีการตรวจประเมินจากหน่วยรับรองภายนอก (Third Party) นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการดำเนินงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งด้านการดูแลพนักงาน รวมถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ซีพีเอฟเข้าไปดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน