KTAMขายตราสารหนี้3เดือนยิลด์1.50%ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 7, 2015 12:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--KTAM นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่าย 2กองทุนตราสารหนี้ ที่เน้นลงทุนต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ อายุโครงการ 3 เดือน ผลตอบแทนทั้ง2 กองทุนประมาณ 1.50% ต่อปี โดยกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 67 ( KTFF67) เสนอขายในวันที่ 8-14 กรกฎาคม 2558 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ China Construction Bank , Bank of China , MTN ที่ออกโดย Banco Santander ( Brasil ) S.A. , MTN ที่ออกโดย BLADEX ในสัดส่วน 88% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ในประเทศประเภทตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย โดยตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 1 (KTSIV3M1) เสนอขายถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เป็นการเปิดขายรอบใหม่ ( Roll Over ) เน้นลงทุนตราสารหนี้ของภาคเอกชน ประกอบด้วย บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสชิ่ง บมจ.บัตรกรุงไทย บมจ.หลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 66% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตราสารหนี้ธนาคารพาณิชย์ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบๆ โดยตลาดตราสารหนี้ไทยตอบสนองต่อข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ติดลบเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวทำให้หลายๆ หน่วยงานเตรียมปรับลด GDP ลงอีกรอบและเริ่มมีกระแสคาดการณ์ถึงการลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกรอบเช่นกัน ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างผันผวน ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดในแต่ละวัน ได้แก่ การผิดชำระหนี้ของกรีซ ตัวเลขการจ้างงานของ ADP และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอเมริกา โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง -8 bps. มาอยู่ที่ 0.64% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง -11 bps. มาอยู่ที่ 1.64% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -9 bps.มาอยู่ที่ 2.40% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้น่าจะเป็นเรื่องท่าทีของเจ้าหนี้ต่อกรีซหลังกรีซมีมติไม่รับมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้แต่เสนอให้มีการเจรจาต่อโดยกรีซเสนอให้มีการลดหนี้ลง 30% และมีระยะเวลาปลอดชำระหนี้ 20 ปีเพิ่มเข้ามาในข้อตกลง ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดและต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ